เมื่อวันที่ 14 ม.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล และชุด PCT5 ติดตามจับกุมตัว นายนภดล (สงวนนามสกุล) ฉายา “ใหม่ 29 ยอด” อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1403/2566 ลงวันที่ 28 ธ.ค.66 ข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์โดยบังคับใช้แรงงาน, ข่มขืนใจผู้อื่น, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และมียาไอซ์ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง พร้อมของกลางปืนแบลงค์กัน กระสุนปืนขนาด .380 บรรจุภายในแม็กกาซีนแบลงค์กัน 8 นัด, และแม็กกาซีนแบลงค์กัน 2 อัน ยาไอซ์ 8 ซอง อุปกรณ์ในการเสพ จับกุมตัวได้ที่คอนโดฯ ย่านลาดพร้าววังหิน แขวง-เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากหญิงไทยที่ถูกหลอกผ่านโลกออนไลน์ไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน 1 เดือน ถูกบังคับขืนใจ 25 ครั้ง เพื่อแลกกับอิสรภาพ จนกระทั่งชุดสืบสวนนครบาลสืบสวนจนพบว่า นายนภดล หรือ นายใหม่ 29 ยอด หรือ นายคงกระพัน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้ามนุษย์ และเป็นถึงระดับคนสนิทของ “อาเหลียง” หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

โดย นายใหม่ มีภารกิจประจำการอยู่ที่เมืองไทย คอยค้นหาคนตกงานเพื่อพาส่งออกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่หากเหยื่อเป็นสาวหน้าตาดีบางรายก็ถูกส่งไปค้ากามแทน ล่าสุดยังวนเวียนในวงการอยู่ในพื้นที่นครบาล จนสายข่าวพบว่ากำลังลวงเหยื่อสาว 2 รายถูกบังคับให้เสพยาเสพติดและกำลังจะส่งเหยื่อทั้ง 2 ราย ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ และช่วยเหลือหญิงสาวทั้ง 2 รายได้อย่างหวุดหวิด ช่วงกลางดึกของวันที่ 13 ม.ค.

จากการสอบสวน นายนภดล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนจบการศึกษาระดับ ปวช. ใน กรุงเทพฯ เดิมเป็นคนเชียงใหม่ ต่อมาเมื่อปี 2560 เห็นแฟนสาวมีเพศสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงของตน จึงสติแตกและพยายามจบชีวิตตัวเองแต่ก็รอดมาได้ จากนั้นจึงเริ่มร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นเวลากว่า 3 ปี ซึ่งเคยทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาแล้วว่า 6 แห่ง ในพื้นที่ จ.สีหนุวิล จ.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา

โดยเคยหลอกลวงมาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นสายที่ 1 หลอกว่ามีพัสดุ หรือหลอกให้หลงรักแล้วให้เทรดบิตคอยน์ โดยตนทำมาหมดเกือบทุกอย่างแล้ว และมีครั้งหนึ่งที่ได้เงินมากที่สุดคือ หลอกให้หญิงคนหนึ่งหลงรัก ซึ่งรอบนั้นหลอกได้เงินจำนวน 10,000,000 บาท

ต่อมาก็ได้ไปเจอกับ อาเหลียง บอสใหญ่และได้รับมอบหมายหน้าที่ให้มาอยู่ในประเทศไทย คอยหาคนพาข้ามไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ โดยตนจะมีหน้าที่หาคนรวมไปถึงพาไปส่งที่ชายแดนปอยเปต จากนั้นบอสก็จะส่งคนมารับพาข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้ค่าจ้างจากบอสหัวละ 5,000 บาท ส่วนยาเสพติดในห้องนั้นตนมีไว้เพื่อขายให้กับชาวจีนที่มาเที่ยวในประเทศไทย ส่วนปืนนั้นมีไว้ป้องกันตัวเองเพราะกลัว อาเหลียง จะมาเอาชีวิตเพราะได้เบี้ยวงานในห้วงหลังๆ ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบประวัติเคยถูกจับกุมในข้อหา “วิ่งราวทรัพย์” เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เบื้องต้นได้นำตัวนายนภดลส่งตัวและนำของกลางที่ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป