สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 115 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 750 คน ระหว่างเข้าไปรายล้อมและแย่งกันรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ จากคาราวานรถบรรทุก ในเขตตะวันตกของเมืองกาซาซิตี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของฉนวนกาซา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และทหารอิสราเอลยิงปืนเข้าใส่ฝูงชน


นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า รายงานจากทีมงานของยูเอ็นในพื้นที่ พบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากมีบาดแผลซึ่งเกิดจากกระสุนปืน


ด้านกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ชาวปาเลสไตน์หลายพันคน เบียดเสียดจนแทบเหยียบกัน ระหว่างแย่งกันรับแจกสิ่งของ โดยหลายคนวิ่งตัดหน้ารถที่กำลังแล่นอยู่ ส่งผลให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ และกองทัพอิสราเอลยอมรับว่า ทหารในพื้นที่ยิงปืนเข้าใส่ฝูงชนจริง แต่ให้เหตุผลว่า “เพื่อควบคุมสถานการณ์ที่กำลังอันตราย”

ประชาชนในเมืองกาซาซิตี ทางเหนือของฉนวนกาซา รีบเข้าไปรับสิ่งของช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการหย่อนทางอากาศ จากเครื่องบินของกองทัพจอร์แดน


อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรป (อียู) เยอรมนี และฝรั่งเศส เรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างละเอียด และเรียกร้องการหยุดยิงในฉนวนกาซา พร้อมทั้งการเปิดทางให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติม นอกจากนี้ กาตาร์เตือนว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้อาจกลายเป็นการขยายวงจรความรุนแรง ส่วนซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และคูเวต ออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอลอย่างหนัก


ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว และรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายประกอบการประเมินเหตุการณ์ และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันผลักดันอิสราเอลให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือจากภายนอกเข้าสู่ฉนวนกาซาอีก และกองทัพสหรัฐจะปฏิบัติการหย่อนเสบียงทางอากาศในฉนวนกาซา ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้าด้วย


สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งสู้รบกันในฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30,000 ราย ท่ามกลางความพยายามครั้งใหม่ของนานาประเทศ นำโดยกาตาร์และอียิปต์ ซึ่งต้องการให้อิสราเอลและกลุ่มฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิงครั้งใหม่ ครอบคลุมตลอดเดือนรอมฎอน หรือการถือศีลอดของชาวมสุลิม ที่จะเริ่มในวันที่ 10 มี.ค. นี้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, AFP