สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ว่าสภาผู้แทนราษฎรปากีสถานมีมติในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ ด้วยเสียงข้างมาก 201 เสียง จากทั้งหมด 366 เสียง เลือกนายเชห์บาซ ชารีฟ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ด้านนายโอมาร์ อารูบ ข่าน ซึ่งเสนอชื่อโดยสมาชิกอิสระที่สนับสนุนนายอิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเตห์รีค-อี-อินซาฟ (พีทีไอ) ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 92 เสียง
ทั้งนี้ เชห์บาซ ปัจจุบันมีอายุ 72 ปี เป็นน้องชายของอดีตนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ดำรงตำแหน่งประธานพรรคสันนิบาตมุสลิมปากีสถาน-นาวาซ (พีเอ็มแอล-เอ็น) และเคยเป็นผู้นำรัฐบาลมาแล้ว ระหว่างปี 2565-2566 ก่อนยุบสภาและจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ถือเป็นผู้นำรัฐบาลคนแรกในประวัติศาสตร์ของปากีสถาน ที่ดำรงตำแหน่งสองสมัยติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม เชห์บาซจะยังคงเผชิญกับความท้าทายแบบเดิมแทบทุกด้าน โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ จากการที่ปากีสถานเกือบผิดนัดชำระหนี้ ในยุครัฐบาลสมัยแรกของเชห์บาซ ก่อนสามารถบรรลุข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) “ในนาทีสุดท้าย”
ขณะเดียวกัน ยังมีเรื่องของความมั่นคง โดยรัฐบาลอิสลามาบัดกล่าวว่า การที่กลุ่มตาลีบันกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งในรอบสองทศวรรษ เมื่อปี 2564 คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปากีสถานเผชิญกับเหตุรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะภูมิภาคทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับอัฟกานิสถาน
แม้ตระกูลชารีฟยังคงมี “ความด่างพร้อย” จากประวัติบนเส้นทางการเมืองที่ไม่ค่อยดีนัก ในยุคของนาวาซ อดีตนายกรัฐมนตรีสามสมัย ซึ่งเต็มไปด้วยความขัดแย้งกับหลายฝ่าย และข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริต แต่การที่กองทัพปากีสถานซึ่งยังคงมีอิทธิพลอย่างมากในทางการเมือง สนับสนุนพรรคพีเอ็มแอล-เอ็น “ณ ตอนนี้” น่าจะช่วยรักษาเสถียรภาพให้กับรัฐบาลชุดใหม่ ที่จะเป็นการร่วมกับพรรคประชาชนปากีสถาน (พีพีพี) ของนายพิลาวัล บุตโต บุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีเบนาซีร์ บุตโต ผู้ล่วงลับ และพรรคการเมืองขนาดเล็กอีกหลายพรรค.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
