สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า สำนักงานเลขาธิการกิจการเศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์ (เซโก) ระบุว่า การส่งออกยุทโธปกรณ์สงครามของประเทศ ลดลง 27% เหลือ 696.8 ล้านฟรังก์สวิส (ราว 28,000 ล้านบาท) จากเดิมที่ 955 ล้านฟรังก์สวิส (ราว 38,600 ล้านบาท) ในปี 2565

แม้สวิตเซอร์แลนด์ยึดถือจุดยืนด้านความเป็นกลางมาอย่างยาวนาน แต่ประเทศยังเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่อันดับที่ 14 ของโลก ในปี 2565 ตามข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (เอสไอพีอาร์ไอ)

เมื่อปีที่แล้ว สวิตเซอร์แลนด์ส่งออกยุทโธปกรณ์สงครามไปยัง 58 ประเทศ ซึ่งลดลงจาก 60 ประเทศในปีก่อนหน้า โดยมีลูกค้ารายใหญ่ที่สุดอย่างเยอรมนี ตามด้วยเดนมาร์ก ลงนามในคำสั่งซื้อกระสุน และยานพาหนะหุ้มเกราะล้อยางจำนวนมาก

อนึ่ง เซโก ไม่ได้ให้เหตุผลของการชะลอตัวในการส่งออกอาวุธในปีที่แล้ว แต่สมาคมอุตสาหกรรม “สวิสเมม” ระบุว่า การแบนการส่งออกอาวุธซ้ำของสวิตเซอร์แลนด์ มีบทบาทในแนวโน้มดังกล่าว อีกทั้งภายใต้กฎหมายความเป็นกลางของประเทศ รัฐบาลเบิร์นจึงไม่สามารถอนุมัติคำขอโอนยุทโธปกรณ์สงครามที่ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ ไปยังยูเครนได้ ตราบใดที่มันมีความเกี่ยวข้องในการขัดกันทางอาวุธระหว่างประเทศ

ด้านสวิสเมม ระบุว่า อุตสาหกรรมอาวุธของสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นอยู่กับการส่งออก และไม่สามารถพึ่งพาความต้องการจากกองทัพสวิสเพื่อความอยู่รอดได้

ขณะที่นายสเตฟาน บรุปบาเคอร์ ผู้อำนวยการของสวิสเมม กล่าวเพิ่มเติมว่า “การตีความที่ไร้เหตุผล” เกี่ยวกับความเป็นกลาง กำลังขัดขวางการส่งออกอาวุธและกระสุนของประเทศ ซึ่งประเทศอื่นซื้อไว้เมื่อหลายปีก่อน และมีหลายประเทศไม่เข้าใจจุดยืนของสวิตเซอร์แลนด์.

เครดิตภาพ : AFP