สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ว่า ตำรวจฟิลิปปินส์ กล่าวว่า พวกเขาได้รับคำแนะนำจากชายชาวเวียดนาม ซึ่งหลบหนีออกจากสถานที่ปิดล้อม ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา และสามารถเปิดโปงปฏิบัติการที่เหยื่อการค้ามนุษย์ ถูกบังคับให้ดำเนินการหลอกลวงทางออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ

“คนงานที่ได้รับการช่วยเหลือ บอกกับเราว่า บริษัทที่พวกเขาทำงานให้ มีส่วนร่วมในการหลอกลวงให้หลงรัก, การฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล และกิจกรรมการต้มตุ๋นอื่น ๆ” นายกิลแบร์โต ครูซ กรรมการบริหารของหน่วยงานเฉพาะกิจด้านอาชญากรรม ซึ่งเป็นผู้นำการบุกค้นก่อนรุ่งสาง กล่าวเพิ่มเติมว่า เหยื่อทุกคนถูกยึดหนังสือเดินทาง ส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถออกมาได้

ตำรวจฟิลิปปินส์ ระบุในแถลงการณ์ว่า ศูนย์หลอกลวงออนไลน์ข้างต้นเป็นกลุ่มอาคารขนาด 10 เฮกตาร์ ในเทศบาลบัมบัน ซึ่งประกอบด้วยอาคารสำนักงานและหอพักรวม 36 แห่ง และบังหน้าด้วยการเป็นบริษัทเกมออนไลน์ โดยเจ้าหน้าที่พบชาวจีน 432 คน, ชาวฟิลิปปินส์ 371 คน, ชาวเวียดนาม 57 คน, ชาวมาเลเซีย 8 คน, ชาวไต้หวัน 3 คน, ชาวอินโดนีเซีย 2 คน และชาวรวันดา 2 คน ในที่เกิดเหตุ

อนึ่ง กลุ่มเหยื่อรายงานว่า พวกเขาเดินทางข้ามภูมิภาค โดยส่วนใหญ่ถูกมิจฉาชีพหลอกให้หลงรัก หรือเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูง แต่เมื่อเดินทางมาถึงศูนย์ พวกเขากลับถูกบังคับให้หลอกลวงคนอื่น เพื่อนำเงินเข้าสู่แพลตฟอร์มการลงทุนปลอม รวมถึงใช้กลอุบายต่าง ๆ ในการฉ้อโกงทางออนไลน์ ภายใต้การข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หรือการลงโทษอื่น ๆ

ทั้งนี้ ครูซ กล่าวในเวลาต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 8 คน ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์ ส่วนชาวฟิลิปปินส์จำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่พบในสถานที่เกิดเหตุ จะถูกปล่อยตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหา เนื่องจากพวกเขาทำงานที่นั่นในฐานะช่างซ่อมบำรุง หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย.

เครดิตภาพ : AFP