ผู้โดยสารเรือสำราญ “นอร์วีเจียน ดอว์น” ของบริษัทเดินเรือสัญชาตินอร์เวย์ จำนวน 8 คนตกเป็นข่าวเมื่อพวกเขาโดนทิ้งไว้บนเกาะเซาตูเม นอกชายฝั่งทวีปแอฟริกากลาง ซึ่งเป็นจุดจอดระหว่างการเดินทาง เนื่องจากพวกเขามาขึ้นเรือไม่ทันเวลา 

กลุ่มนักท่องเที่ยวที่โดน “ปล่อยเกาะ” ในคราวนี้มี 6 คนเป็นชาวอเมริกันและ 2 คน เป็นชาวออสเตรเลีย ทั้งหมดขึ้นเรือเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2567 จากจุดเริ่มต้นทริปที่เมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ มุ่งสู่ปลายทางที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในวันที่ 10 เม.ย. 2567 มีกำหนดการเดินทางทั้งหมด 21 วัน

แต่เมื่อวันพุธที่ 27 มี.ค. 2567 กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้ง 8 คนนี้แวะเที่ยวบนเกาะเซาตูเมโดยใช้ไกด์ส่วนตัวที่จ้างกันเอง ไม่ใช่บริการของเรือ แต่กลับมาขึ้นเรือไม่ทันซึ่งทางเรือสำราญกำหนดว่าผู้โดยสารจะต้องกลับขึ้นเรือก่อนเวลา 15.00 น.

เจย์ และ จิลล์ แคมป์เบลล์ จากเซาท์แคโรไลนา ซึ่งอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่โดนปล่อยเกาะอ้างว่า ผู้จัดทัวร์ท้องถิ่นของพวกเขาได้แจ้งไปทางเรือแล้วว่าพวกเขาจะกลับมาขึ้นเรือช้ากว่ากำหนด และแม้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ชายฝั่งจะพาพวกเขาลงเรือเล็กไล่ตามไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเรือนอร์วีเจียน ดอว์น

นักท่องเที่ยวทั้ง 8 คนจึงตกค้างอยู่บนเกาะเป็นเวลาหลายวัน โดยมีปัญหาเรื่องการสื่อสารเพราะมีอุปสรรคเรื่องภาษาและมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากเงินที่มีติดตัวเป็นคนละสกุลกับเงินที่ใช้บนเกาะ

อย่างไรก็ตาม พวกเขากล่าวว่าคนบนเกาะนั้นมีน้ำใจมากและพยายามให้ความช่วยเหลือพวกเขามากที่สุด รวมถึงพยายามหาโรงแรมที่พักให้พวกเขา จากนั้นพวกเขาก็ต้องติดต่อบริษัททัวร์ให้ช่วยจัดหาตั๋วเครื่องบินเพื่อจะได้บินไปรอเรือในจุดแวะจอดถัดไป ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนั้นยุ่งยากและมีปัญหามากมายเพราะอุปสรรคเรื่องภาษาและสกุลเงินที่ใช้

ด้านโฆษกของบริษัทเรือสำราญนอร์วีเจียนก็แถลงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นสถานการณ์ที่ “โชคไม่ดี” และชี้ว่าผู้โดยสารกลุ่มนี้ต้องรับผิดชอบตัวเองด้วยการกลับมาขึ้นเรือให้ทันเวลาตามที่ได้ประกาศไว้

บริษัทยังระบุว่า หลังจากที่ผู้โดยสารกลุ่มนี้กลับมาไม่ทันขึ้นเรือ ก็มีการส่งหนังสือเดินทางของคนทั้งแปดไปให้เจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือตามระเบียบการ บริษัทยังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อดำเนินการจัดการเรื่องวีซ่าที่จำเป็นต้องใช้สำหรับผู้โดยสารทั้ง 8 คน เพื่อให้ได้กลับมาขึ้นเรือ ณ จุดจอดถัดไปของทริป

ต่อมา ในวันจันทร์ที่ 1 เม.ย. 2567 ผู้โดยสารทั้ง 8 คนก็สามารถมารอขึ้นเรือได้สำเร็จที่ท่าเรือกรุงบันจูล ประเทศแกมเบีย แต่ตัวเรือกลับไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้เพราะสภาพอากาศและกระแสน้ำเวลานั้นไม่เอื้ออำนวยให้เข้าจอดได้อย่างปลอดภัย กลุ่มผู้โดยสารสุดซวยนี้จึงต้องออกเดินทางไปยังจุดจอดเรือถัดไปที่กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล ในวันอังคารที่ 2 เม.ย. 2567

แต่ในคราวนี้พวกเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าจะยังอยากเดินทางต่อไปกับเรือสำราญลำนี้หรือไม่ ขณะเดียวกันทางบริษัทเดินเรือก็แถลงว่าจะดำเนินการคืนค่าโดยสารบางส่วนในระยะทางจากกรุงบันจูลไปยังกรุงดาการ์แก่ผู้โดยสารทั้ง 8 คนนี้

นอกเหนือจากผู้โดยสารกลุ่มนี้แล้ว นอร์วีเจียนดอว์นยังทิ้ง จูเลีย เลนคอฟฟ์ วัย 80 ปี ผู้โดยสารอีกคนไว้บนเกาะเช่นกัน แต่ เลนคอฟฟ์ ไม่ได้ลงเรือเพื่อไปเที่ยวเกาะ เธอจำเป็นต้องไปพบแพทย์

ทางเรือนอร์วีเจียนฯ อ้างว่าได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อคุณยายเลนคอฟฟ์หลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย นอกจากนี้ยังติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือบนเกาะเซาตูเมเพื่อขอข้อมูลล่าสุดของอาการป่วยของเธอ

เจย์ และ จิลล์ แคมป์เบลล์ จากผู้โดยสารกลุ่มแรกเจอคุณยาย เลนคอฟฟ์ และช่วยติดต่อครอบครัวของคุณยายที่อยู่ในแคลิฟอร์เนียได้สำเร็จ ซึ่งได้ส่งคนมารับคุณยายเพื่อเดินทางกลับบ้านทางเครื่องบินในเวลาต่อมา โดยลูกสาวของคุณยายระบุว่าจำเป็นต้องทำ “เพื่อช่วยชีวิต” ของคุณยาย

ทางเรือนอร์วีเจียนก็ออกมาชี้แจงว่าทางบริษัทได้ช่วยพาคุณยายเลนคอฟฟ์ขึ้นเครื่องบินเพื่อบินไปยังกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส จากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่ของสนามบินคอยดูแลให้คุณยายเดินทางต่อไปยังสหรัฐ เพื่อกลับบ้านของเธอได้อย่างปลอดภัย

ที่มา : nbcnews.com

เครดิตภาพ : AFP