สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ว่า จากกรณีทางการสิงคโปร์เตรียมประหารชีวิต นายนาเกนธราน ธรรมลิงกัม สัญชาติมาเลเซีย วัย 33 ปี ด้วยการแขวนคอ ในวันพุธที่ 10 พ.ย. โดยนาเกนธรานถูกจับกุมเมื่อเดือน เม.ย. 2552 ขณะนั้นมีอายุเพียง 21 ปี พร้อมของกลางเป็นเฮโรอีนน้ำหนักเกือบ 43 กรัม และศาลคดียาเสพติดของสิงคโปร์มีคำพิพากษา เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ให้จำเลยรับโทษประหารชีวิตนั้น

The Star


ศาลไฮคอร์ตของสิงคโปร์มีคำพิพากษา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้ระงับคำสั่งประหารชีวิตออกไปก่อน และขอให้ศาลอุทธรณ์ไต่สวนเพิ่มเติม ซึ่้งกำหนดการพิจารณาคือ วันอังคารที่ 9 พ.ย. นี้ หากศาลอุทธรณ์ไม่รับคำร้องของจำเลย หรือพิพากษาตีตกด้วยเหตุผลอันใด เท่ากับว่าคำสั่งระงับบทลงโทษเป็นอันสิ้นสุด การประหารชีวิตนาเกนธรานจะเกิดขึ้นตามกำหนดการเดิม และจะเป็นการประหารชีวิตนักโทษครั้งแรกในรอบ 2 ปีของสิงคโปร์

กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนรวมตัวหน้าสถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ เรียกร้องทางการสิงคโปร์บรรเทาโทษประหารชีวิต ให้แก่นายนาเกนธราน ธรรมลิงกัม นักโทษคดียาเสพติดซึ่งมีความบกพร่องทางเชาว์ปัญญา


ทั้งนี้ ทนายความของนาเกนธรานพยายามแสดงหลักฐานว่า ลูกความ “มีปัญหาด้านสติปัญญาและสภาพจิต” ชี้ชัดได้ด้วยผลการทดสอบความฉลาดทางเชาว์ปัญญา ซึ่งอยู่ที่เพียง 69 “เทียบเท่าเด็กอายุยังไม่ถึง 18 ปี” และเดินหน้าอุทธรณ์ขอให้มีการลดหย่อนโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต หลังการยื่นคำร้องขออภัยโทษจากประธานาธิบดีฮาลิมาห์ ยาค็อบ ถูกปฏิเสธ


ด้านรัฐบาลสิงคโปร์ยืนกรานว่า นาเกนธราน “มีความเข้าใจต่อการกระทำของตัวเอง” และกระบวนการพิจารณาคดีของจำเลย “เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ” ที่ระบุว่า บุคคลใดก็ตามนำเฮโรอีนน้ำหนักมากกว่า 15 กรัม เข้ามาในสิงคโปร์ ต้องรับโทษประหารชีวิต

อย่างไรก็ดี ต่อมามีการปฏิรูปกฎหมาย ให้ลดลงเหลือเป็นการจำคุกตลอดชีวิต ในกรณีที่จำเลยเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติด หรือ “มีภาวะทุพพลภาพทางจิตใจ” ที่ส่งผลต่อการรับรู้ ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียและองค์กรสิทธิมนุษยชนพยายามใช้ประเด็นนี้เพื่อต่อรองกับทางการสิงคโปร์ โดยนายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ ผู้นำมาเลเซีย ส่งหนังสือตรงถึงนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ผู้นำสิงคโปร์ เพื่อขอให้มีการบรรเทาโทษต่อนาเกนธรานด้วย.

เครดิตภาพ : AP