เมื่อวันที่ 11 พ.ย. Hurun Report ได้เปิดเผยการจัดอันดับมหาเศรษฐีและประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก ประจำปี 2564 โดยมหาเศรษฐีหมายถึงบุคคลที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32,800 ล้านบาท โดยในปีนี้ทั่วโลกมีจำนวนมหาเศรษฐี 3,228 คน จากทั้งหมด 68 ประเทศ โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 414 คนและ 1,039 คน นับจาก 5 ปีที่แล้ว

สำหรับ 10 อันดับบุคคลที่รวยที่สุดในโลก มีดังนี้ 1. อีลอน มัสก์ (Tesla) 197 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 2. เจฟฟ์ เบโซส์ (Amazon) 189 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 3. เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ (LVMH) 114 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 4. บิล เกตส์ (Microsoft) 110 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 5. มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Meta) 101 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 6. วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Berkshire Hathaway) 91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 7. จง ซานซาน (YST) 85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 8. มูเกช อัมบานี (Reliance) 83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 9. สตีฟ บอลเมอร์ (Microsoft) 80 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 10. เบอร์ทรานด์ ปูเอห์ และครอบครัว (Hermes) 80 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่หากเป็นการจัดอันดับจำนวนมหาเศรษฐีในประเทศ 10 อันดับแรกของโลกที่มีจำนวนมากที่สุด 1. จีน 1,058 คน 2. สหรัฐ 696 คน 3. อินเดีย 177 คน 4. เยอรมนี 141 คน 5. สหราชอาณาจักร 134 คน 6. สวิตเซอร์แลนด์ 100 คน 7. รัสเซีย 85 คน 8. ฝรั่งเศส 68 คน 9. บราซิล 59 คน และ 10. ไทย 52 คน

จีน มีมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 259 คน รวมเป็น 1,058 คน ซึ่งนับเป็นประเทศแรกของโลกที่มีมหาเศรษฐีเกิน 1,000 คน ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง สหรัฐอเมริกา ที่มีทั้งหมด 696 คน เพิ่มขึ้นมา 70 คนจากปีที่แล้ว ทำให้ยักษ์ใหญ่ทั้งสองอย่างจีนและสหรัฐอเมริกา มีมหาเศรษฐีเป็นที่รู้จักถึง 54% ของโลก โดยอินเดียมีเพิ่มมากขึ้น 40 คน ทำให้ยังครองอันดับ 3 อยู่ ตามมาด้วยเยอรมนี สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์

การจัดอันดับจากเมืองที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก ได้แก่ 1. ปักกิ่ง 145 คน 2. เซี่ยงไฮ้ 113 คน 3. นิวยอร์ก 112 คน 4. เซินเจิ้น 105 คน 5. ลอนดอน 82 คน ส่วน กรุงเทพมหานคร ติดอันดับที่ 12 ด้วยจำนวน 51 คน

นอกจากนี้ หากจัดอันดับเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. จีน 1,058 คน 2. อินเดีย 177 คน 3. ไทย 52 คน 4. ญี่ปุ่น 44 คน 5. สิงคโปร์ 35 คน