สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ว่า ผู้ประท้วงประมาณ 10 กว่าคน ที่บุกเข้าไปในอาคารกระทรวงกิจการสังคม กล่าวว่า ประชาชนไม่สามารถทนทาน ต่อสภาวะในประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤติ ได้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังล่มสลายอย่างรวดเร็ว และค่าเงินปอนด์อ่อนลงอีก สู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ โดยอัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 25,100 ปอนด์เลบานอน ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสถิติต่ำสุดก่อนหน้านี้อยู่ที่ 25,000 ปอนด์ต่อ 1 ดอลลาร์

ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในเลบานอนพุ่งสูงขึ้น ในระยะไม่กี่สัปดาห์ล่าสุด ขณะที่รัฐบาลยกเลิกกองทุนอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิง และยารักษาโรคบางส่วน ทำให้ราคาแพงเกินเอมถึงสำหรับชาวเลบานอนจำนวนมาก จากข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ปัจจุบันประมาณ 75% ของประชากรเลบานอน 6.78 ล้านคนทั้งประเทศ รวมถึงผู้ลี้ภัยชาวซีเรียราว 1 ล้านคน มีฐานะยากจน และอัตราค่าแรงขั้นต่ำรายเดือนของประเทศ อยู่ที่ประมาณ 27 ดอลลาร์สหรัฐ (900 บาท)

กลุ่มผู้ประท้วงกล่าวโทษกระทรวงกิจการสังคม ทำงานอืดอาด ในการออกบัตรรับเงินช่วยเหลือรายเดือน สำหรับครอบครัวฐานะยากจน

วิกฤติเลบานอนย่ำแย่ลงอีก จากการระบาดของโควิด-19 และระเบิดมหาวินาศในโกดังท่าเรือเบรุต เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2563 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 216 ราย บาดเจ็บกว่า 6,000 คน และอาคารบ้านเรือพังพินาศในวงกว้าง

คณะรัฐมนตรีเลบานอนชุดปัจจุบัน ซึ่งจัดตั้งในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา หลังภาวะสุญญากาศนาน 13 เดือน ยังไม่มีการประชุมนานกว่า 6 สัปดาห์ ท่ามกลางความแตกแยกรุนแรง ระหว่างหลายกลุ่มการเมือง เกี่ยวกับผู้พิพากษาที่เป็นหัวหน้าคณะ ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเหตุการณ์ระเบิดที่ท่าเรือเบรุต.

เครดิตภาพ – AP, Reuters
เครดิตคลิป – Al Jazeera English