ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บอกว่าคนเดือดร้อนน้ำมันแพงมีทุกกลุ่ม ไม่ใช่แค่รถบรรทุก ว่า ราคาน้ำมันแพงๆ หลักๆ เกิดจากการเก็บภาษีที่มีหลายชนิด ทำให้ภาษีจากราคาน้ำมันนี้ เก็บได้ลิตรละประมาณเกือบ 10 บาท เพราะถ้ารัฐบาลไม่เก็บรายได้จากตรงนี้ ก็ไม่มีปัญญาหารายได้จากส่วนอื่น ซึ่งตนมองดูแล้วรัฐบาลชุดนี้ไม่มีอนาคต ประชาชนคาดหวังอะไรไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีพิสูจน์แล้วว่าเกือบ 8 ปี ยังทำอะไรไม่ได้
ส่วนกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในวันที่ 17-18 ก.พ.นี้ ว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้แบ่งเวลาให้ตนอภิปรายไม่เกิน 30 นาที โดยเรื่องที่จะอภิปรายมีประมาณ 6 เรื่อง ได้แก่ 1.การทุจริตขึ้นราคาหมู ซึ่งที่ผ่านมาคนที่ได้ประโยชน์คือเจ้าสัว รวมถึงผู้มีอำนาจในการกำกับติดตามราคาหมู และคนใกล้ชิดนักการเมืองใหญ่ แต่คนที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดคือประชาชน 2.เรื่องประสิทธิภาพบริหารงานของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน โดยเฉพาะการดูแลเรื่องพลังงาน ราคาน้ำมัน และแก๊สหุงต้ม ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน แต่นายสุพัฒนพงษ์ รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ ไร้ประสิทธิภาพและไร้ปัญญาแก้ไขปัญหา 3.การจัดซื้อวิทยุสื่อสารของกระทรวงมหาดไทย 75,986 ชุด พร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน 145 ชุด ที่ตนดูแล้วพบว่า จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเสนอจัดซื้อจัดจ้างโดยบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประมูลได้ในราคาต่ำสุดนั้น เมื่อเทียบกับราคาท้องตลาดพบว่ายังมีราคาที่สูง จึงทำให้เกิดความสงสัย แต่ทั้งนี้ตนยังไม่ได้บอกว่ามีการทุจริตแต่อย่างใด แต่อยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
4.การหมดอายุสัมปทานดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 ต้องไปตรวจสอบว่าการที่รัฐบาลมอบให้บริษัทโทรคมนาคมฯ เป็นผู้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ 5.ตนได้รับร้องเรียนจากแรงงานชาวเมียนมา ขอให้ตรวจสอบเรื่องค่าธรรมเนียมการต่ออายุของแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในไทย เนื่องจากพบว่ามีการเรียกจ่ายเงินคนละ 7,500-8,000 บาทต่อคน โดยมีนายหน้าชาวเมียนมาและเจ้าหน้าที่ไทยร่วมกันดำเนินการ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว พบว่าค่าธรรมเนียมในการดำเนินการมีค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 2,660 บาทต่อคนเท่านั้น จึงขอถามกระทรวงแรงงาน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นค่าอะไร
6.จากที่กระทรวงอุตสาหกรรมรับรองให้ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ เป็นร้านค้าที่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ได้ แต่ร้านค้าโชห่วยกลับไม่ได้รับการรับรอง มอก.จะทำอย่างไร ถามว่าเป็นการเอื้อประโยชน์กลุ่มเจ้าสัวหรือไม่ และอนาคตร้านค้าโชห่วยจะถูกสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตามไล่จับ จนเกิดช่องว่างระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนในการเอื้อให้เกิดการทุจริตหรือไม่ ถือว่าเป็นการกีดกันการค้าขายของประชาชน และเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ตนมองว่าการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายรัฐบาลครั้งสุดท้าย เพราะเชื่อว่านายกฯ จะยุบสภาก่อน จนไม่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้า
