กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถอนวาระขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ที่เสนอโดยกระทรวงมหาดไทย หลังจากที่ 7 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ยื่นหนังสือขอลาการประชุม ครม. และกระทรวงคมนาคมทำหนังสือค้าน พร้อมทั้งเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาร่างสัญญาฯ ดังกล่าวนั้น

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. น.ส.สารี อ๋องสมหวัง สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) เปิดเผยว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังไม่ได้ตอบคำถามกับทุกฝ่าย ถึงเรื่องอัตราค่าโดยสาร 65 บาท มีการคิดคำนวณมาจากอะไร ประกอบกับการยกเลิกตั๋วรายเดือน 30 วัน ของรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่มีราคาค่าโดยสารถูกกว่าปกติประมาณ 28 บาท ส่งผลให้ผู้ใช้บริการมีจำนวนไม่มาก ทั้งนี้ จึงไม่มีเหตุผลการเสนอให้ ครม. พิจารณาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวราคา 65 บาท ขณะเดียวกันตามที่ สอบ. ได้ทำข้อเสนอไปยัง กทม. ยังมีเวลาพิจารณาดำเนินการ เนื่องจากสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะสิ้นสุดในปี 72 หรือยังเหลือเวลาอีกประมาณ 8 ปี ซึ่งยังไม่ต้องรีบดำเนินการ ควรบริหารจัดการให้เรียบร้อยก่อน เพราะหากมติ ครม.มีผลเห็นชอบแล้ว จะต้องปฏิบัติตาม ซึ่งอาจจะยากในการแก้ไขในอนาคตได้ นำไปสู่การสร้างภาระต่อผู้บริโภคอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน สอบ. ยังได้เสนอให้มีการจัดประมูลใหม่ โดยทุกบริษัท รวมถึงบีทีเอส มีสิทธิเข้ามาประมูลการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ประกอบกับไม่มีต้นทุนในเรื่องโครงสร้างฯ ดังนั้นเชื่อว่าจะทำให้ค่าโดยสารมีราคาถูกลง และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

“ราคาเดิม 44 บาท คนก็ยากลำบากอยู่แล้ว และคุณจะมาทำราคา 65 บาท ยิ่งทำให้คนไม่สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้เลย ซึ่งเกือบ 40% ของรายได้ขั้นต่ำของคน กทม. ซึ่ง สอบ.ยืนยันไม่เห็นด้วย และคิดว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้ราคา 65 บาท จริงๆ เราเสนอให้ทบทวน เอากลับมาประมูลใหม่ หรือคุ้มครองราคา 44 บาท ตั้งแต่คูคตไปจนถึงสมุทรปราการ ซึ่งสามารถใช้ราคาสูงสุด 44 บาทได้ ยิ่งตอนนี้ผู้บริโภคมีความเดือดร้อน ทั้งราคาหมูแพง สินค้าแพง น้ำมันแพง แล้วรถไฟฟ้าก็จะแพงอีก”

น.ส.สารี กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญ คือ ต้องการเห็นการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว จากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ เนื่องจากในขณะนี้ จะเห็นได้ว่า ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้ตอบรับสิ่งที่ สอบ. เสนอในราคา 25 บาท และตนยืนยันว่า สามารถทำได้จริง ขณะเดียวกัน ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของบางพรรคการเมือง ยังมีการเสนอราคาเพียง 20 บาทเท่านั้น ดังนั้นสะท้อนว่าสามารถทำได้จริง อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ควรสร้างภาระต่อผู้บริโภค ก่อนที่จะหมดสัญญาสัมปทานในปี 72