เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พูดถึงการยุบสภาหลังประชุมเอเปค ปลายปี 65 กลางวงรับประทานอาหารกับพรรคเล็ก ว่าเป็นเรื่องของพล.อ.ประวิตร ที่พูด และได้มาเรียนกับตนแล้ว และซึ่ง พล.อ.ประวิตร พูดในมุมมองของตัวเองแต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีตั้งใจจะอยู่ครบเทอมหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่ต้องตัดสินใจ ซึ่งขอเก็บไว้ก่อน ย้ำว่าเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีจะบอกก่อนทำไม และทำไมต้องรีบบอก”

เมื่อถามว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหลังการประชุมเอเปคหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะยังไปไม่ถึงตรงโน้น ตอนนี้กำลังดูถึงเรื่องการประชุมอื่นๆต่อเนื่องไปยังการประชุมเอเปค จะต้องดูว่าจะประชุมได้หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

เมื่อถามว่าการนัดร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดในวันที่ 17 มี.ค. มีนัยอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันเป็นการพูดคุยและเจอกันให้เกียรติซึ่งกันและกัน ความเป็นจริงพูดคุยกันอยู่แล้ว เจอหลายครั้งในสภา วันนี้เรามาร่วมแรงร่วมใจทำเพื่อประเทศชาติ อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง ส่วนเรื่องความไม่รักไม่สามัคคีคงไม่ใช่ เพราะตนให้เกียรติเสมอ หากเจอกันผู้นั้นอายุมากกว่าตนก็สวัสดี ยืนยันไม่เคยคิดเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วสุดยอดเสียเมื่อไร

เมื่อถามว่าไม่มีเรื่องของความน้อยอกน้อยใจกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “คนเรามันต้องหัวใจใหญ่ ทำตัวให้หัวใจใหญ่ ไม่ใช่หัวใจเล็ก ต้องเป็นหัวใจที่รู้จักให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้อภัยกัน สำหรับคนที่ควรให้อภัย”

เมื่อถามว่าระหว่างนี้การเมืองจะเป็นอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ให้ไปถามฝ่ายการเมือง ตนอยู่ฝ่ายบริหารส่วนเรื่องการใช้เสียงในสภาจะทำให้รัฐบาลยังมีเสถียรภาพหรือไม่ก็แล้วแต่เสียงในสภา ตนบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าคิดว่าทำไปแล้วประเทศชาติจะดีขึ้น ก็แล้วแต่เขา

เมื่อถามย้ำว่า จะมีการปรับภาพหรือเสริมทัพหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่มี ไม่มีการปรับอะไรทั้งนั้น”

ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร ถามในวงรับประทานอาหารร่วมกับพรรคเล็กว่ามีแผนล้มนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ให้มาล้มเถอะ ใครจะล้มก็ล้มไป ผมไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผมคิดว่าทุกคนมีวุฒิภาวะที่ดีเพียงพอ และผมให้เกียรติเขาทุกคน และขอถามว่าจะเกิดประโยชน์กับใคร วันนี้ผมทำงานมาเท่าไหร่ อะไรสำเร็จบ้าง ไปเทียบดู ไปเทียบมาเลย 7-8 ปีที่ผ่านมา ขอให้ไปเทียบผลงานมาเลย และให้ประชาชนไปแยกแยะเอาเอง”

เมื่อถามว่าถือว่าการร่วมรับประทานอาหารพรรคเล็กจะเป็นการรับฟังเสียงของประชาชนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีอะไรหรอก กินข้าวอย่างเดียว”

เมื่อถามย้ำว่าการที่ พล.อ.ประวิตร ออกมาพูดจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า “ไม่มีอะไรหรอก กินข้าวผิดด้วยหรือ”.