เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ริเริ่มเสนอกฎหมายร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า กล่าวภายหลังโฆษกรัฐบาลออกมาเเถลงผลการประชุม ครม. ว่าที่ประชุม ครม. มีมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่เสนอโดยสภาผู้แทนราษฎร โดยให้ความเห็นว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการ “ผลิตสุราที่ไม่ใช่เพื่อการค้า” ในเรื่องนี้ ครม. เห็นว่า การผลิตสุราที่ไม่ใช่เพื่อการค้าสามารถกระทำได้โดยควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในเรื่องคุณภาพ และสิ่งแวดล้อม จึงมอบให้กระทรวงการคลัง ไปพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงในบางเรื่องเพื่อไม่เป็นการจำกัดเสรีภาพของประชาชนนั้น
นายเท่าพิภพ กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น ตนได้หารือกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตในหลายครั้ง เเละตนเคยอธิบายไปหลายรอบเเล้วว่า การตรวจสอบคุณภาพเป็นเรื่องจำเป็น รายละเอียดวิธีการตรวจอาจจะเยอะขึ้น นั้นก็เป็นสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องจัดจ้างหาวิธีตรวจให้มันง่ายขึ้น เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน
“การทำเบียร์ ทำเหล้า ถ้ามันทำไม่ดี ยังไงมันก็เสีย หากลองกินไปแม้แต่นิดเดียว ยังไงคนผลิตต้องรู้อยู่แล้วว่ามันห่วยกินไม่ได้ ผู้บริโภคจะเรียนรู้เอง ด้วยกลไกทางการตลาด การที่พวกคุณมาห้ามด้วยข้ออ้างเช่นนี้ ไม่ได้ตอบคำถามสำคัญที่ประชาชนหลายท่านตั้งคำถามไว้เลยนั้นก็คือ ทำไมคนตัวเล็กตัวน้อยทำไม่ได้” นายเท่าพิภพ กล่าว
นายเท่าพิภพ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามการไม่เห็นด้วยของ ครม. ก็ไม่ใช่อำนาจการตัดสินใจเด็ดขาด เพราะร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ตนเป็นคนยื่นต่อสภาเอง เรื่องนี้ก็ต้องกลับสู่สภา ให้ทางฝ่ายค้านและรัฐบาลได้ตัดสิน สรุปคือ แม้ว่าทาง ครม. จะไม่เห็นด้วย ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ก็ยังไม่ล่ม หากจะล่มมีวิธีการเดียวที่จะล่มได้นั้นก็คือ แพ้เสียงโหวตในสภา ซึ่งในตอนนี้ยังโดนดองร่างกฎหมายอยู่ ก่อนที่จะกลับเข้ามาบรรจุในวาระสมัยประชุมหน้า
“ผมขอเรียกร้องให้ประชาชนในฐานะผู้ทรงอำนาจ เปิดเว็บไซต์รัฐสภาหาเบอร์โทรฯ ส.ส.ของท่าน เปิดเฟซบุ๊ก หาเพจ ส.ส.ในพื้นที่ของท่าน หากรู้บ้านก็ให้ไปหน้าบ้าน ส.ส.เขตของท่าน แล้วบอกเขาว่าร่างกฎหมายฉบับนี้สำคัญต่อท่านเพียงไร เเละขอให้ ส.ส. ทุกคนตัดสินใจและลงคะแนนเป็นประโยชน์ของประชาชน ผมขอฝากทุกคน เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้แล้ว” นายเท่าพิภพ กล่าว
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ในหัวข้อ หยุดฆ่าตัดตอนโอกาสของประชาชน สภาต้องผ่าน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ใจความว่า วันนี้ มีความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างกฎหมายสำคัญเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนสองร่างด้วยกัน นั่นคือกรณี พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าและ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมในกรณีของ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ตนยืนยันว่าคนตัวเล็กน้อยต้องสามารถผลิตสุราเพื่อการค้าขายได้อย่างเสรี ให้มีช่องทางในการทำมาหากิน ข้อกังวลเรื่องคุณภาพมาตรฐานต้องแก้ด้วยการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ไม่ใช่การตัดตอนโอกาสช่องทางทำมาหากินของประชาชนไปทั้งหมดเช่นนี้ โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ผลิตสุราชุมชนและคราฟต์เบียร์ คนตัวเล็กตัวน้อยที่ต่างตั้งความหวังเฝ้ารอการผ่านของ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า
นายธนาธร ระบุว่า เรื่องของ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมยิ่งเลวร้ายไปกว่า ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการตีความโดย ครม.ว่าทั้งสองร่างกฎหมายมีความคล้ายคลึงกัน ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมมีหลักการและเนื้อหาที่แตกต่างกับ พ.ร.บ.คู่ชีวิตโดยสิ้นเชิง มีเนื้อหาที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศในการสมรสมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการบัญญัติให้สิทธิแก่ “บุคคล” สามารถ “สมรส” กันได้ ไม่เหมือนกับ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่ให้สถานะเพียง “คู่ชีวิต” ที่ไม่เท่ากับการสมรส
“ผมขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรยืนยันในผลประโยชน์ของประชาชน เหมือนตอนที่สภาพิจารณาร่างฯ มีผู้แทนจากทุกพรรคการเมืองต่างอภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ขอให้ผู้แทนราษฎรทุกคน ทุกพรรค ทำหน้าที่อย่างสมเกียรติ โหวตรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน” นายธนาธร ระบุ
นายธนาธร ระบุอีกว่า ขอเชิญชวนประชาชนทุกท่าน ร่วมกันจับตาผู้แทนของท่านอีกครั้งในการประชุมสภาสมัยหน้า ในเดือน พ.ค.ว่าผู้แทนในเขตของท่านจะลงมติอย่างไรกับร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับดังกล่าว ว่าพวกเขาจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง หรือเป็นเพียงตัวแทนของอำนาจที่ไม่ใช่ของประชาชนกันแน่
