สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงจูบา ประเทศซูดานใต้ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่า กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) และโครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) กล่าวว่า การขาดแคลนครั้งนี้ เลวร้ายยิ่งกว่าในช่วงสงครามกลางเมืองเมื่อปี 2556 และ 2559

“ความมั่นคงด้านอาหารที่ลดลง และภาวะทุพโภชนาการที่เพิ่มขึ้น เชื่อมโยงกับการผสมผสานของความขัดแย้ง, สภาพเศรษฐกิจมหภาคที่ย่ำแย่, สภาพอากาศที่รุนแรง และราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น” ยูนิเซฟ และดับเบิลยูเอฟพี กล่าวเพิ่มเติมในแถลงการณ์

ในขณะเดียวกัน เงินทุนสำหรับแผนงานด้านมนุษยธรรมที่ลดลง ยังสวนทางกับความต้องการด้านมนุษยธรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย เนื่องจากราคาอาหารที่ขยับตัวสูงขึ้นเพราะสงครามในยูเครน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ ส่งผลให้หน่วยงานด้านมนุษยธรรมหลายแห่ง ประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุน

นอกจากนี้ ดับเบิลยูเอฟพีกล่าวเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ทางหน่วยงานถูกบังคับให้ระงับความช่วยเหลือด้านอาหารบางส่วนแก่ซูดานใต้ โดยต่อมาในเดือน ส.ค. หลายหน่วยงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประมาณการว่า ชาวซูดานใต้ราว 7.7 ล้านคน จะประสบกับการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงในช่วงเดือน เม.ย.-ก.ค. ระหว่างการเก็บเกี่ยว 2 ครั้ง ของปี 2566

“มันจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน เราต้องปรับความสำคัญของการให้ความสนใจ และเปลี่ยนทรัพยากรของเราใหม่” นางโจเซฟีน ลากู รมว.เกษตรและความมั่นคงด้านอาหารของซูดานใต้ กล่าวในระหว่างการเปิดเผยรายงาน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES