ดูอะไรสัปดาห์นี้ ขอพาทุกคนไปพบกับรีวิวหนัง 2 เรื่อง 2 แนว 2 รสชาติ เริ่มต้นกันที่ “Eternals : ฮีโร่พลังเทพเจ้า” เป็นเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่มีพลังความสามารถหลากหลาย พวกเขามายังโลกด้วยกัน 10 คน ตามคำสั่งของ Arishem The Judge (อริเชม เดอะ จัดจ์) เอเลี่ยนผู้มีรูปร่างใหญ่โตพอ ๆ กับดวงดาวในจักรวาล หรือที่เรียกกันว่า Celestials (เซเลสเทียล) ให้มาคอยดูแลการเจริญเติบโตของเหล่ามนุษย์บนโลก โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งต่าง ๆ ยกเว้นเสียแต่จะมีเรื่องของ Deviants (ดีเวียน) มนุษย์ต่างดาวที่เป็นคู่อริกับ Eternals มาเกี่ยวข้องเท่านั้น การเฝ้าดูแลจะถึงจุดสิ้นสุดก็ต่อเมื่อวันแห่งการพิพากษาโลกมาถึง นั่นก็คือวันที่ “เซเลสเทียล” อีกตนจะถือกำเนิดขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าโลกต้องแตกเป็นเสี่ยง ๆ และสิ่งมีชีวิตบนโลกจะตายหมดสิ้นไม่เหลือซาก ด้วยเหตุนี้ “เอแจ็กส์” ผู้นำของกลุ่ม Eternals จึงพยายามเปลี่ยนมุมมองของสมาชิกทุกคนให้หันกลับมาปกป้องมนุษย์โลก แต่กลับกลายเป็นว่า “เอแจ็กส์” โดน “ดีเวียน” สังหารเสียก่อน ชะตากรรมของมนุษย์โลกจะเป็นอย่างไรต่อไป คงต้องไปตามลุ้นกัน

                ความน่าแปลกประหลาดของ Eternals คือเหล่านักวิจารณ์และเว็บไซต์หนังดังในต่างประเทศ ต่างกดคะแนนต่ำจนน่าตกใจ แต่สำหรับแฟนหนังที่เข้าไปพิสูจน์ด้วยสายตาตัวเอง ทุกคนล้วนพูดตรงกันว่ามันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ตัวหนังถูกสร้างมาด้วยฝีมือผู้กำกับ “โคลอี เจา” สาวเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ ดังนั้นก็ขอให้ทำใจก่อนดูเลยว่า งานนี้ดราม่าชีวิตฮีโร่แหง ๆ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมาย บทมีหลากหลายอารมณ์ ดำดิ่งไปกับความดราม่าจนนำไปสู่การทำลายล้างแบบคาดไม่ถึง การใช้ตัวดาราแม่เหล็กที่มีลักษณะต่างเชื้อชาติ เพศสภาพ ความไม่สมบูรณ์ทางร่างกาย ถูกจัดวางในบทบาทที่แตกต่างกันออกไป ทว่าสามารถสะท้อนมุมของฮีโร่ในความเป็นมนุษย์ธรรมดาออกมาได้ดีสุด ๆ สรุปว่า อย่าเชื่อในคำวิจารณ์แง่ลบ จนกว่าจะได้ไปพิสูจน์ด้วยสายตาตัวเอง

                ไปต่อที่หนังอีกเรื่องอย่าง Spiral: From the Book of Saw : เกมลอกอำมหิต” ใครได้เห็นสัญลักษณ์กลม ๆ แดง ๆ ที่เคยแต่งแต้มบนแก้มของตุ๊กตาในหนังสยองขวัญ SAW ภาคต่าง ๆ ก็คงรู้ความหมายว่ามันคือ “การเปลี่ยนแปลง” และแม้ว่าตัวร้ายอย่าง “จอห์น เครเมอร์” หรือ Jigsaw” จะตายไปแล้ว แต่แนวคิดในการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของเขายังถูกปลูกฝังในผู้คนจำนวนมาก การจับเอาคนมาเล่นเกมที่ต้องแลกกับการสละอวัยวะของตัวเองเพื่อให้มีชีวิตต่อไป ดูเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก เพราะน้อยคนที่จะรอดจากเกมเหล่านี้ ในเมื่อคนที่สืบทอดเจตนารมณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง ยังให้เปอร์เซ็นต์ในการรอดน้อยกว่า Jigsaw ต้นแบบ งานหนังฆาตกรสยองขวัญแบบ saw จึงเริ่มกร่อยลงไปเรื่อย ๆ แม้จะทำออกมาแก้ตัวถึง 8 ภาคแล้วก็ตาม

                สำหรับภาค Spiral: From the Book of Saw เป็นเรื่องราวการไขคดีฆาตกรรมของตำรวจฝ่ายสืบสวน “เอเซเกล ซีค แบงค์” (รับบทโดย คริส ร็อก) ที่จู่ ๆ ตำรวจในโรงพักของเขาก็กลายเหยื่อการฆาตกรรมของ Jigsaw คนใหม่ เรื่องนี้ได้ “ซามูเอล แอล. แจ็กสัน” มารับบทเป็น “มาร์คัส” อดีตตำรวจในตำนานผู้เป็นพ่อของ “เอเซเกล” และยังมี “วิลเลียม เชนก์” (รับบทโดย แม็กซ์ มิงเกลลา) คู่หูฝ่ายสืบสวน ช่วยกันสืบหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ตัวหนังมีความยาว 93 นาที จุดเด่นของเรื่องคือ ยังคงมีฉากโชว์แบบสยดสยองตามแบบฉบับ SAW ไว้มากมาย แต่ปัญหาคือบทหนังที่ดูราบเรียบ เนื้อหาบางซีนดูไม่สมเหตุสมผล และไม่ Make Sense เอามาก ๆ เดาทางกันได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องคิดเยอะ ทำตามสูตรสำเร็จของหนังสยองขวัญ เช่น เดี๋ยวจะต้องมีฉากตัวละครเดินไปให้ฆาตกรอุ้ม เอาไปเล่นเกมแล้วก็ฆ่าตายแบบง่าย ๆ สรุปก็คือ เป็นหนังที่คงความสยดสยองเอาไว้ได้ แต่พล็อตเรื่องเดิม ๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่.

ภาณุพงศ์ ส่องสว่าง