เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย และ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความถึงกรณี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่มีปัญหาเรื่องความเห็นวาระดารดำรงตำแหน่งนายกฯ ขัดกัน โดย ระบุว่า

เห็นกบดานอยู่นาน นึกว่าคุณมีชัยจะมีทีเด็ดอะไร ถึงเวลากลายเป็นกระสุนด้านให้ขายหน้าเสียเปล่าๆ

ที่คุณมีชัยบอกว่า ให้นับเวลาตั้งแต่ ปี 60 ที่รัฐธรรมนูญใช้บังคับนั้น เป็นเพราะอ้างว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันมาตั้งแต่ปี 60 ซึ่งฟังไม่ขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 264 บัญญัติว่า ครม.ที่เป็นอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับเป็น ครม.ตามรัฐธรรมนูญนี้ ก็คือต้องนับมาตั้งแต่ปี 2557 คือตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาแต่แรก

คำชี้แจงของคุณมีชัยย้อนแย้งกันเอง แบบหาตรรกะเหตุผลไม่ได้

แต่ที่สำคัญก็คือศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ถามความเห็นส่วนตัวในปัจจุบันของคุณมีชัย แต่ถามถึงเจตนารมณ์ของคณะกรรมาธิการตอนที่ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าไม่มีบันทึกไว้ก็ต้องให้คุณมีชัยกับพวกมาเล่า แต่เมื่อมีการประชุมหารือและบันทึกไว้ก็ต้องดูตามที่บันทึกไว้

คุณมีชัยดูจะทำอะไรแบบรีบๆ อยู่บ่อยๆ และในเรื่องนี้ก็ทำแบบรีบๆ ถึงสองครั้งต่างกรรมต่างวาระกัน

รีบที่หนึ่งคือตอนที่คณะกรรมการรับรองรายงานการประชุม คุณมีชัยคงเห็นว่าไม่มีอะไรจะแก้หรือไม่ทันนึกอะไรก็เลยปล่อยผ่านไป แล้วก็จำไม่ได้ว่าที่ประชุมรับรองบันทึกการประชุมในวันที่ 7 ก.ย. 2561 ไปแล้ว หรือไม่ก็แกล้งทำเป็นจำผิด

มาตอนนี้ก็รีบอีกคือรีบบอกว่าบันทึกการประชุมครั้งนั้น ผู้จดบันทึกคิดไปเองและไม่ได้มีการรับรอง

แต่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า คณะกรรมาธิการฯ รับรองรายงานการประชุมไปแล้ว จึงต้องถือตามรายงานการประชุมนั้น

ความเห็นของคุณมีชัยในวันนี้จึงไม่มีประโยชน์อะไรแก่ใคร จะมีก็แต่ความเสียหายต่อคุณมีชัยเองที่ไม่มีหลักการอะไรและยังมาลักไก่ให้คนเขาจับได้ ขายหน้าเขาไปทั่ว