เมื่อวันที่ 28 พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้บัญชาการทหารเรือ กรณีมีกำลังพลของกองทัพเรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ ขบวนการค้ายาเสพติด ว่าคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงลงความเห็นว่า การปฏิบัติของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย (นรข.เขตหนองคาย)
เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตตามอำนาจและหน้าที่ แต่เหตุการณ์ดังกล่าว มีความขัดแย้งและเกิดความไม่เข้าใจระหว่าง นรข.กับ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เนื่องจากขาดการชี้แจงหรืออธิบายของผู้มีอำนาจหน้าที่ในขณะนั้น และการกระทำไม่เป็นไปด้วยความประนีประนอม ซึ่งกองทัพเรือก็ได้มีการลงทัณฑ์หัวหน้าสถานีเรือศรีเชียงใหม่ พร้อมทั้งสั่งย้ายออกจากพื้นที่ตั้งแต่เกิดเหตุแล้ว ทั้งนี้ จากผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดของนรข.ดังกล่าว ได้นำไปสู่คำพิพากษาของศาลจังหวัดหนองคายตัดสินจำคุกนายกิตติศักดิ์ แจ่มใส ในเวลาต่อมา
พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในระหว่างการสอบข้อเท็จจริง คณะกรรมการฯ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเข้าร่วมฟังการสอบข้อเท็จจริงของ จ.อ.อนุชิต มะลิหอม หรือจ่ากุ้ง เนื่องจาก มีชื่อของ จ.อ.อนุชิต ปรากฏในโทรศัพท์ ของนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จึงได้เรียกตัว จ.อ.อนุชิต ซึ่งขณะนั้นสังกัด กองข่าว กองเรือยุทธการ และเข้าให้มาให้ข้อเท็จจริงที่ กองบังคับการ นรข.เขตหนองคาย โดยในระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงจ.อปอนุชิต ได้ยินยอมที่จะให้ความจริงทุกประการ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้ขอให้ จ.อ.อนุชิต เข้ามาให้ข้อเท็จจริง โดยนำหลักฐานที่มีพร้อมโทรศัพท์มือถือ มามอบให้คณะกรรมการสอบสวน ในระหว่างที่ จ.อ.อนุชิต ไปนำหลักฐานมาให้นั้น คณะกรรมการ ได้สอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเข้าร่วมฟังการสอบข้อเท็จจริงว่าสามารถควบคุมตัวจ.อ.อนุชิตได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเข้าร่วมฟังการสอบข้อเท็จจริงแจ้งว่าไม่สามารถควบคุมตัวได้ เนื่องจากไม่มีอำนาจตามกฎหมาย เพราะว่าไม่มีหมายจับ จ.อ.อนุชิตในขณะนี้
พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวอีกว่า ระหว่างนั้น จ.อ.อนุชิต ได้ใช้กลอุบายหลอกลวงว่าจะไปนำหลักฐาน ซึ่งได้เก็บไว้ที่โรงแรมที่พักมาให้ แล้วจึงขับรถหนีไป คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงประสานกับ เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.ท่าบ่อ เพื่อขอให้สกัดจับ แต่ในที่สุดจ.อ.อนุชิตสามารถหลบหนีไปได้ จากนั้นคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้ประสานกับเจ้าพนักงานตำรวจขอให้ศาลออกหมายจับ เนื่องจากเชื่อว่า จ.อ.อนุชิต มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดครั้งนี้ และศาลจังหวัดหนองคายได้อนุมัติออกหมายจับ จ.อ.อนุชิตแล้ว โดยกองทัพเรือได้ดำเนินการปลดออกจากราชการเรียบร้อยแล้ว และในส่วนคดีของ หน.สน.เรือศรีเชียงใหม่ เรื่องการทำหลักฐานจับกุมอันเป็นเท็จตามที่ถูกกล่าวหานั้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าพนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวอีกว่า เจตนารมณ์ของ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) มีนโยบายที่จะให้กำลังพล มีระเบียบวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม พร้อมทั้งมีนโยบายอย่างเคร่งครัดที่จะไม่ให้กำลังพลยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากพบว่ามีกำลังพลรายใดฝ่าฝืนกองทัพเรือ จะดำเนินการทางวินัยและทางอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง พร้อมทั้ง ขอให้เชื่อมั่นว่ากองทัพเรือจะไม่มีการปกป้องคนผิดไม่ว่าจะเป็นในระดับใดก็ตาม.
