หลังจากปรากฏตัวต่อหน้าศาลพิพากษาในวันที่ 31 ต.ค. 2565 ชายชาวสิงคโปร์ 4 คน ซึ่งระบุเพียงชื่อย่อว่า นายเค วัย 45 ปี, นายแอล วัย 53 ปี, นายเอ็ม วัย 45 ปี และนายเอ็น วัย 37 ปี เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของเหล่าภรรยาผู้ตกเป็นเหยื่อ ก็ยอมรับว่าพวกเขามีความผิดจริงในข้อหาวางยาสลบและข่มขืนภรรยาของพวกเขา

นอกจากนี้ ศาลยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า บางคนในกลุ่มได้บันทึกคลิปวิดีโอขณะดำเนินการล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อเอาไว้ด้วย

ทีมอัยการรัฐต้องการให้ชายกลุ่มนี้ได้รับโทษจำคุก โดยคาดว่า นายเค และนายเอ็ม อาจได้รับโทษต้องขังระหว่าง 19-23 ปี รวมทั้งรับโทษโบยด้วยไม้อีก 24 ครั้ง ส่วน นายเอ็น นั้น คาดว่าจะได้รับโทษจำคุกระหว่าง 17-21 ปี และรับโทษโบย 24 ครั้ง สุดท้ายคือ นายแอล มีโอกาสติดคุกเป็นเวลาระหว่าง 11-16.5 ปี และรับโทษจำคุกเพิ่มเติมอีก 6 เดือน แทนการโดนโบยด้วยไม้

พวกเขายังมีผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 1 ราย ซึ่งระบุเพียงชื่อย่อว่า นายเจ สามีวัย 41 ปี ของหนึ่งในผู้เสียหาย และเป็นผู้ที่โดนตั้งข้อหาเป็นจำนวนมากที่สุดในคดีนี้ เนื่องจากถือว่าเป็นผู้ที่เป็นแกนนำหลักของแผนการดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างช่วงปี 2553-2561

ตามรายงานการสืบสวน ชายกลุ่มนี้รู้จักกันและร่วมกันวางแผนการผ่านชุมชนออนไลน์ชื่อว่า SammyBoy โดยมี นายแอล และนายเจ ที่เคยพบหน้ากันจริงเพื่อส่งมอบยานอนหลับ ‘ดอร์มิคุม’ หรือชื่อที่รู้จักกันในหมู่นักเที่ยวกลางคืนว่า ‘ยาเสียสาว’ เนื่องจากเป็นยาที่นิยมใช้ล่อลวงหญิงสาวเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ โดยผู้ที่เผลอกินยานี้เข้าไป นอกจากเกิดอาการง่วงและหลับไปโดยง่ายแล้ว เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะมีอาการความจำเสื่อมชั่วคราว

เหตุการณ์อื้อฉาวนี้โดนเปิดโปงเมื่อภรรยาของนายเจพบภาพถ่ายของเธอในโทรศัพท์มือถือของเขา ซึ่งปรากฏร่วมกับข้อความโต้ตอบพูดคุยระหว่างนายเจ และนายเค ซึ่งเป็นคนที่เขา “แลกภรรยา” ไปเป็นคู่นอนด้วย

นอกเหนือจากการวางยาภรรยาและอดีตภรรยาของตัวเองแล้ว บางคนในกลุ่ม เช่น นายเอ็ม ยังไลฟ์สดและบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะแลกคู่นอนกันเก็บไว้ให้คนอื่น ๆ ในกลุ่มได้ดูอีกด้วย

ตามรายงานการสืบสวน ผู้สมรู้ร่วมคิดอีกรายคือ นายพี ซึ่งโดนจำคุกไปแล้วก่อนหน้านี้ ไม่สามารถข่มขืนภรรยาของนายแอล ได้สำเร็จ เนื่องจากเธอได้สติฟื้นขึ้นมาก่อนที่จะโดนล่วงละเมิด เขาเป็นคนแรกในกลุ่มสามีตัวแสบซึ่งมีทั้งหมด 7 คน ที่รับโทษจำคุกหลังจากรับสารภาพ โดยมีกำหนดรับโทษ 3 ปี

ส่วนนายโอ ซึ่งเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดคนสุดท้าย ยังคงไม่ยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา

ขณะนี้ศาลพักคดีไว้ชั่วคราวและจะกลับมาพิจารณาโทษสำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดต่อไปในภายหลัง

แหล่งข่าว : nextshark.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES