กรณี นายกิตธิสิทธิ์ ทุมมาส นายกเทศมนตรีตำบลเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี โพสต์คลิปวงจรปิด เป็นคลิปและภาพเสือโคร่งตัวใหญ่ บริเวณสันเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ทางลงสันเขื่อนฝั่งซ้าย แล้ววิ่งหนีลงฝั่งโรงไฟฟ้า พร้อมแจ้งเตือนลูกบ้านและประชาชนทุกๆ คน ให้ระวังลูกๆ หลานๆ ด้วย งดเว้นการเข้าป่าหาของป่า ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เสือสันเขื่อน! เช็กวงจรปิดแกะรอยล่าพบโผล่โชว์ตัวหน้ากล้อง4จุด

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นายไพทูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เสือโคร่งที่พบบนสันเขื่อนศรีนครินทร์ นั้น เจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนตรวจสภาพป่าตามปกติ ไม่พบว่ามีร่องรอยเสือโคร่งเพิ่มเติม คาดว่าเสือโคร่งตัวดังกล่าว น่าจะกลับคืนสู่ป่าธรรมชาติแล้ว ซึ่งบริเวณที่พบได้นำเรียนเบื้องต้นไปแล้วว่า เป็นพื้นที่รอยต่อของป่าอนุรักษ์ ไม่ว่าจะเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หรืออุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดอยู่แล้ว

เสือโคร่งเป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติ การได้พบเห็นเสือโคร่ง แสดงว่าพื้นที่ป่าบริเวณนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่ในเรื่องของถิ่นที่อยู่อาศัยและอาหารของเสือโครง คือสัตว์ที่เป็นเหยื่อต่างๆ ส่วนประการที่เสือโคร่งได้เดินมาให้เห็นบนสันเขื่อนนั้น คาดว่าเป็นเส้นทางสัญจรตามปกติของสัตว์ป่าที่มีการเคลื่อนย้าย โดยเฉพาะเสือโคร่งมีถิ่นที่อยู่อาศัยค่อนข้างกว้างใหญ่ โดยในพื้นที่ป่าสลักพระ เคยพบว่ามีเสือโคร่งบางตัวมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งมีระยะทางห่างไกลจากสลักพระมาก โดยพบว่าติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าของทีมงานวิจัยเสือโคร่ง องค์กร Panthera เป็นต้น ฉะนั้นการที่เสือโคร่งอาจจะเดินผ่านจุดที่ผู้คนอาจพบเห็นได้ เป็นช่วงของรอยต่อของป่าเป็นเรื่องปกติ อีกประการหนึ่งการเดินทางผ่านจุดดังกล่าวนั้น เสือโคร่งก็เดินมาในช่วงกลางคืนตอนดึก ซึ่งการมาในช่วงเวลาดังกล่าวเพราะไม่มีผู้คนพลุกพล่าน อย่างไรก็ดี ก็ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกจนเกินไป เนื่องจากวิถีของสัตว์ป่าแล้ว จะกลัวคนมากกว่า

ส่วนความคืบหน้ากรณีพบร่องรอยเสือโคร่ง บริเวณ ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และ ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ทางเขตฯ ได้ประสานไปยังนายสุพล คำเสนาะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ผู้ประสานงานด้านตำบลลุ่มสุ่ม กรณีการติดตั้งกล้องเพื่อตรวจสอบเสือโคร่ง และประสานไปยังนายเสรี นาคบุญ หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติเขาน้ำพุ ติดตั้งกล้องบริเวณตำบลช่องสะเดา ได้รับการชี้แจงจากทั้งสองท่านว่า จากที่ทำการติดตั้งกล้องมาตั้งแต่ช่วงระหว่างวันที่ 5 ม.ค.-7 ม.ค. 66 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่สามารถตรวจพบร่องรอยเสือใหม่และไม่มีการบันทึกภาพเสือโคร่งได้เลย อีกประการหนึ่ง ยังไม่พบว่าชาวบ้านในพื้นที่ทั้งสองแห่งได้รับผลกระทบจากเสือโคร่ง เช่น ไม่พบว่ามีการรายงานเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงถูกกัดหรือสูญหายอันอาจจะเกิดจากสัตว์ใหญ่ (เสือโคร่ง) แต่อย่างใด

เสือโผล่! ชาวบ้านผวาเห็นจะจะวิ่งตัดหน้ารถ พ่อเมืองสั่งแกะรอยล่าตัว

ซึ่งทางคณะติดตามคาดว่า เสือตัวดังกล่าวน่าจะกลับเข้าสู่พื้นที่ป่าธรรมชาติไปแล้ว และจะได้ประเมินสถานการณ์และเก็บกล้องดักถ่าย เนื่องจากไม่พบร่องรอยเสือแต่อย่างใด.