จากกรณีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง บุกเชิญตัว นาย หยู ซิน ฉี ประธานมณฑลส่านซี สมาคมแห่งประเทศไทย จากบ้านพักหรูย่านวัชรพล ไปสอบถามข้อมูลที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ภายหลังที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล เปิดเผยเรื่องราวว่า มีการจัดตั้งสมาคมไม่ถูกต้องและแอบอ้างเบื้องสูง และผู้นำประเทศ ในการแสวงหาผลประโยชน์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ตำรวจขยับแล้ว! บุกเชิญ ‘หยู ซิน ฉี’ ทุนจีนสีเทาตัวใหม่ เค้นตั้งสมาคมเถื่อน-แอบอ้างเบื้องสูง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเล่ห์เพทุบายของนายหยู ซิน ฉี พบว่า นายหยู ซิน ฉี เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้วีซ่าบั้นปลายชีวิตหรือวีซ่าเกษียณอายุ สำหรับชาวต่างด้าวที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และต้องการอาศัยอยู่ในประเทศไทย นอกจากนี้ได้ตรวจสอบพบว่า ขั้นตอนในการขอวีซ่าถูกต้อง มีการแสดงหลักฐานทางการเงิน คือเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อย กว่า 800,000 บาท หรือมีเงินไม่น้อยกว่าเดือน 65,000 บาท โดยเงินได้ 12 เดือน รวมกันไม่น้อยกว่า 800,000 บาท โดยสามารถยื่นเอกสารเพื่อขอวีซ่าแบบชีวิตบั้นปลายนี้ได้ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งระยะเวลาการอนุญาตจะเป็นแบบ 1 ปี ผู้ที่มีวีซ่าแบบ Multiple Non-Immigrant Visa ไม่ต้องทำ Re-Entry เพราะเมื่อท่านเดินทางออกนอกประเทศ ท่านจะได้รับการอนุญาตให้เข้ามาใหม่ เป็นเวลา 90 วัน

อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ดำเนินการเพิกถอนวีซ่าของนายหยู ซิน ฉี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.