จากกรณี ที่พ่อเลี้ยง ใช้ท่อนไม้ตี นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี จนสลบ เลือดไหลออกหู ออกจมูก สาเหตุไม่พอใจที่ไปเตะบอลกับเพื่อนแล้วกลับบ้านช้า สุดโหดตีไม่ยั้ง ก่อนที่เพื่อนบ้านจะเข้าไปห้าม และนำตัวส่ง รพ.บ้านฉาง พบเลือดคั่งในสมอง จึงส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ระยอง ล่าสุดอาการยังโคม่า อยู่ในห้องไอซียู ส่วนพ่อเลี้ยงโหด หลังก่อเหตุกลัวความผิด เก็บเสื้อผ้าแล้วขึ้นรถเก๋งที่มาจอดรออยู่หลบหนีไป ส่วนแม่เด็กไม่ยอมเข้าแจ้งความ ทั้งที่ลูกในไส้ถูกตีจนโคม่า ด้านพี่สาวนายเอ ทราบเรื่อง เตรียมเข้าแจ้งความเพื่อจับตัวพ่อเลี้ยงโหดมาดำเนินคดี ตามที่เสนอไป

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. พ.ต.อ.กุลชาติ กุลชัย ผกก.สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านฉาง ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านธารทิพย์ หมู่ที่ 3 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง (บ้านที่เกิดเหตุ) หลังสืบทราบว่า นายประคอง บุญลือ อายุ 40 ปี พ่อเลี้ยงที่ทำร้ายลูกเลี้ยงจนอาการโคม่า ได้ย้อนกลับมาเก็บข้าวของ เมื่อมาถึงก็เห็น นายประคอง ใส่เสื้อลายทหาร กางเกงขาสั้นสะพายกระเป๋า กำลังจะหลบหนีออกจากบ้าน จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ทันที ขณะที่นายประคอง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็ถึงกับหน้าซีด เพราะเกรงกลัวโทษทัณฑ์ทางอาญา ภายหลังถูกคุมตัวไปยังโรงพักบ้านฉาง

ขณะเดียวกัน นายดำ (นามสมมุติ) และ นายแดง (นามสมมุติ) พ่อและพี่ชายของนายเอ ได้เดินทางมาจากบ้านพักที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดกับ นายประคอง ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายเอ ซึ่งได้เปิดเผยว่า รู้สึกสงสารนายเอ เป็นอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ของนายเอ ถึงไม่ยอมแจ้งความเอาผิดสามีใหม่ ทั้งยังออกโรงปกป้องอย่างเห็นได้ชัด ลูกโดนทำร้ายปางตายทำไมถึงเห็นคนอื่นดีกว่าลูกตัวเอง ตอนนี้ก็ยังอาการสาหัส ไม่ได้สติ เป็นตายเท่ากัน ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้าน นางกิ๊ฟ แม่ของ นายเอ ให้การอ้างว่า ตนเองได้แจ้งความเอาผิดกับ นายประคอง ที่ทำร้ายลูกชายแล้ว แต่ก็ยังเชื่อว่าไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ พ่อเลี้ยงต้องการตีเพื่อสั่งสอน แต่พลาดไปโดนศีรษะ เพราะเขาเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก จึงรักและห่วง และต้องการสอนให้เป็นคนดีของสังคม ถึงจะตีแต่ก็หวังดี แต่ทำโทษแรงไปหน่อย ซึ่งก็ขอโทษแล้ว ส่วนเรื่องคดีก็ต้องว่ากันไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

พ.ต.ท.ธวัชชัย แต่งเกลี้ยง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านฉาง กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้บาดเจ็บสาหัส หากว่าเสียชีวิต ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเป็น ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ซึ่งขณะนี้ทางผู้ต้องหายอมรับกระทำจริง แต่ยังอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม น.ส.นพพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ระยอง เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้าเยี่ยม น้องเอ ที่ รพ.ระยอง พบว่าอาการล่าสุดยังโคม่า แพทย์แจ้งว่า กะโหลกร้าวสมองบวม ยังต้องรักษาอยู่ในห้องไอซียู โดยมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด.