สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ว่า ฟ็อกซ์ นิวส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ข่าวใหญ่อันดับต้นของสหรัฐ ออกแถลงการณ์เรื่องการบรรลุข้อตกลงประนีประนอมยอมความนอกศาล กับบริษัทโดมิเนียน ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ลงคะแนนเลือกตั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่กล่าวหาฟ็อกซ์ นิวส์ “หมิ่นประมาทและสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง” ว่าโดมิเนียนเจตนาใช้ “เทคนิคบางอย่าง” เพื่อลดคะแนนการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 ส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐในเวลานั้น ต้องพ่ายแพ้


ทั้งนี้ ฟ็อกซ์ตกลงเตรียมจ่ายเงินทั้งสิ้น 787.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,995.50 ล้านบาท) ให้แก่โดมิเนียน โดยเป็นราคาที่ลดลงเกือบครึ่ง จากที่โดมิเนียนเรียกร้องผ่านการฟ้องร้องต่อศาลที่เมืองวิลมิงตัน ในรัฐเดลาแวร์ ไว้ที่ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 54,848 ล้านบาท)


ขณะที่แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง “ในนาทีสุดท้าย” และจะช่วยให้บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฟ็อกซ์ นิวส์ รวมถึงนายรูเพิร์ต เมอร์ด็อก อภิมหาเศรษฐีแห่งวงการสื่อโลก ชาวออสเตรเลีย-อเมริกัน ซึ่งเป็นเจ้าของช่อง และผู้ประกาศข่าวดาวเด่นอย่าง นายทักเกอร์ คาร์ลสัน ไม่ต้องขึ้นศาลด้วยตัวเอง


ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มี.ค. 2564 โดมิเนียนยื่นฟ้องฟ็อกซ์ นิวส์ ว่าเจตนาเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่บริษัทเป็นอย่างมาก เนื่องจากการกล่าวหาของทรัมป์ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง แต่ฟ็อกซ์กลับยังคง “เต็มใจ” นำเสนอข้อมูลนั้น เพื่อดึงเรตติ้ง หลังเป็นสื่อแรกที่รายงานว่า นายโจ ไบเดน คว้าชัยชนะที่รัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นตัวชี้วัดชัยชนะการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐครั้งนั้น ส่งผลให้จำนวนผู้ชมฟ็อกซ์ นิวส์ ลดลงช่วงหนึ่ง


อนึ่ง เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส เรียกคดีระหว่างฟ็อกซ์ นิวส์ กับ โดมิเนียน ว่าเป็น “คดีหมิ่นประมาทแห่งศตวรรษ” และเป็นบททดสอบ “นิยามแห่งเสรีภาพ” ของสหรัฐ ในบริบทเกี่ยวกับ “เสรีภาพสื่อในการนำเสนอข้อมูล”.

เครดิตภาพ : REUTERS