คืนวันที่ 27 ก.ย. 2566 ตำรวจบัลติมอร์สามารถรวบตัว เจสัน บิลลิงส์ลีย์ วัย 32 ปี ผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 ของคดีฆาตกรรม พาวา ลาแพร์ ซีอีโอสาวของบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ในคนรุ่นใหม่จำนวน 30 คนที่ “ทรงอิทธิพลทางสังคม” จากการอันดับนิตยสารฟอร์บส์ ที่อพาร์ตเมนต์ของเธอในบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์

ฆ่าโหดซีอีโอสาวบริษัทดัง 1 ใน 30 ผู้ทรงอิทธิพลทางสังคมของนิตยสาร ‘ฟอร์บส์’ 

เจ้าหน้าที่ติดตามร่องรอยการปรากฏตัวของ บิลลิงส์ลีย์ ที่สถานีรถไฟที่ถนนลอเรล-โบวี ในเขตพรินซ์จอร์จ เคาน์ตี รัฐแมรีแลนด์ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการจับกุม 

บิลลิงส์ลีย์ เป็นผู้ต้องสงสัยว่าลงมือฆาตกรรม พาวา ลาแพร์ ซีอีโอสาววัย 26 ปี ซึ่งเสียชีวิตอยู่ในห้องพักของเธอเองโดยมีร่องรอยบาดแผลที่เกิดจากการโดนกระแทกด้วยของไม่มีคม เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ก.ย. 2566 หลังจากที่มีผู้แจ้งความว่าเธอหายตัวไป

จากการตรวจสอบผู้ต้องสงสัยรายนี้ซึ่งตำรวจระบุว่าเป็น “บุคคลอันตราย” เนื่องจากพฤติกรรมข่มขืนและฆ่าเหยื่อของเขา พบว่า เขามีประวัติอาชญากรรมหลายคดีด้วยกัน โดยสืบย้อนไปได้ถึงปี 2552 ซึ่งเป็นคดีทำร้ายร่างกายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน รวมถึงละเมิดทัณฑ์บนในเวลานั้น ซึ่งเขาจะต้องรับโทษจำคุก 5 และ 3 ปีตามลำดับ

บิลลิงส์ลีย์ ยังได้รับการตัดสินโทษจำคุก 30 ปีเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2558 จากข้อหาข่มขืน โดยก่อนหน้านั้นเขาโดนควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ปี 2556 และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกมาเมื่อเดือนต.ค. 2565 โดยได้รับการลดหย่อนโทษ 16 ปีและคุมประพฤติ 5 ปี

บิลลิงส์ลีย์ จะโดนตั้งข้อหาอาชญากรรมหลายกระทงด้วยกันในคดีฆาตกรรมลาแพร์ ซึ่งรวมทั้งข้อหาทำร้ายร่างกายและฆาตกรรมโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน

ก่อนหน้านี้ เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมที่อาคารแห่งหนึ่งบนถนนเอดมันด์สัน เมืองบัลติมอร์ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2566 โดยเป็นการพยายามฆ่า วางเพลิงและข่มขืน 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของแรงจูงใจในการฆาตกรรมลาแพร์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเขาไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้ตาย

ที่มาและเครดิตภาพ : foxnews.com