เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่องค์การหลอดเลือดสมองโลก (ดับบลิวเอสโอ) กำหนดให้วันที่ 29 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันหลอดเลือดสมองโลก โดยประเด็นการรณรงค์ในปี 2566 คือการร่วมมือกันป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนสร้างความตระหนักรู้เพื่อป้องกันโรคดังกล่าวแก่ประชาชนนั้น ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและความพิการที่สำคัญทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั่วโลกพบว่า 1 ใน 4 ของประชากร ที่มีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป เป็นโรคหลอดเลือดสมอง สำหรับประเทศไทยข้อมูลจากรายงานสถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้มากถึง 349,126 ราย เสียชีวิต 36,214 ราย ซึ่งเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีอายุน้อยกว่า 70 ปี

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรคได้แนะนำวิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมองด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ควบคุมระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาล และระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม มีกิจกรรมทางกายหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดการใช้สารเสพติดทุกชนิด หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวควรพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่ผ่านการรักษาจนพ้นวิกฤติแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมทั้งรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปรับยาหรือหยุดยาเอง เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรคหลอดเลือดสมอง

นายชัย กล่าวว่า สำหรับอาการและสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง B.E.F.A.S.T มีดังนี้  B-Balance เสียการทรงตัว วิงเวียน เดินเซ E-Eye มองไม่เห็น มีอาการตามืดบอดข้างเดียว หรือ 2 ข้างทันที มองเห็นภาพซ้อน, F-Face ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยวเฉียบพลัน A-Arm แขนขาอ่อนแรง, S-Speech พูดไม่ชัด เสียงเปลี่ยน ลิ้นแข็ง พูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่ออกทันทีทันใด, T-Time หากมีอาการ ให้รีบโทรศัพท์สายด่วน 1669 และนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว หรือภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที

“รัฐบาลห่วงใยประชาชนที่อาจเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตัวเอง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ขณะที่กรมควบคุมโรคย้ำว่า ประชาชนหรือผู้ป่วยสามารถนำความรู้มาป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และประกอบการตัดสินใจในการมารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เพื่อลดความเสี่ยงต่อความพิการและเสียชีวิต” นายชัย กล่าว