เมื่อเวลาประมาณ 18.40 น. ของวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย. 2566 เกิดเหตุพยายามปล้นทรัพย์จากร้านเครื่องประดับแห่งหนึ่งในย่านอุเอโนะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่เรื่องกลับจบลงอย่างคาดไม่ถึงสำหรับแก๊งโจร
รายงานข่าวระบุว่า ในตอนแรก มีชาย 2 คนขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าร้านขายเครื่องประดับเพชรพลอย “ริวทสึ” ริมถนนซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟโอคะจิมาจิเพียงไม่กี่ช่วงตึก ชายทั้งสองไม่ยอมถอดหมวกกันน็อกในขณะที่เดินเข้าไปในร้าน จากนั้นก็เริ่มทุบทำลายตู้กระจกโชว์เครื่องประดับด้วยชะแลงเหล็กที่พกมาด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน โจรคนที่ 3 ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมมอเตอร์ไซค์ที่หน้าร้านและเข้าไปในร้านเพชรในลักษณะเดียวกันกับเพื่อนร่วมแก๊ง กล่าวคือสวมหมวกกันน็อกและมีชะแลงเหล็กอยู่ในมือ
แต่แทบจะในทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปในร้าน ก็พบว่าเพื่อนร่วมแก๊ง 2 คนที่บุกเข้าไปก่อนหน้านี้ วิ่งเตลิดหนีออกมาจากร้าน แล้วมารวมตัวกับเพื่อนที่มาทีหลัง
สาเหตุที่แก๊งโจรต้องล่าถอยอย่างหมดรูปนั้นก็คือพนักงานชายร่างสูงใหญ่ในร้านที่ปรากฏตัวพร้อมไม้ง่ามปราบจลาจลด้วยท่าทีที่น่าเกรงขาม ตามด้วยเพื่อนร่วมงานอาวุโสของเขาในชุดสูท ซึ่งตรงเข้าไปถีบรถมอเตอร์ไซค์ของคนร้ายจนล้ม 1 คัน และใช้มือผลักให้ล้มตะแคงอีก 1 คัน
แก๊งโจรทั้งสามกวัดแกว่งชะแลงเหล็กในมือเพื่อข่มขู่อีกฝ่าย แต่ขณะเดียวกัน เท้าก็ก้าวถอยห่างออกมา จนในที่สุดก็ตัดสินใจวิ่งหนีไป พนักงานผู้ถือไม้ง่ามจึงหันมาฟาดมอเตอร์ไซค์ของคนร้ายแทนจนพังยับเยิน เพื่อไม่ให้แก๊งโจรใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี
เรื่องจบลงด้วยความล้มเหลวของแก๊งโจรที่ปล้นอะไรไปไม่ได้เลยสักอย่าง ขณะที่พนักงานในร้านและคนที่บังเอิญผ่านไปในระหว่างเกิดเหตุล้วนปลอดภัยดี ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ในระหว่างเกิดเหตุ ในร้านไม่มีลูกค้า
ตำรวจพบว่าคนร้ายมีความพยายามเปลี่ยนสีรถโดยใช้สติกเกอร์สีฟ้าปิดทับตัวถัง เพื่อให้ตำรวจสืบหาคนร้ายจากรถได้ยากขึ้น
พนักงานอาวุโสในชุดสูทของร้านริวทสีให้สัมภาษณ์ว่า ทางร้านได้ซื้อไม้ง่ามปราบจลาจลซึ่งเป็นอุปกรณ์ล็อกตัวคนร้ายที่ตำรวจนิยมใช้ มาไว้ประจำที่ร้านมาตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังจากเห็นรายงานการบุกปล้นร้านค้าในเมืองหลายครั้ง เขายังสังเกตเห็นแก๊งโจร 2 ใน 3 คนนี้มาดูลาดเลาในวันก่อนที่จะลงมือ เพราะอีกฝ่ายขับรถย้อนศร ทำให้ผิดสังเกตจนเขาจดจำได้
ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ปล้นร้านขายเครื่องประดับและของมีค่าแบรนด์เนมในโตเกียวมาแล้วหลายครั้ง โดยมีคดีปล้นในย่านอุเอโนะ 5-6 คดี เนื่องจากย่านดังกล่าวเป็นที่ตั้งของร้านค้าเครื่องประดับมีค่า นาฬิการะดับไฮเอนด์และสินค้าแบรนด์เนม
ที่มา : news.tv-asahi.co.jp, soranews24.com
เครดิตภาพ : YouTube / ANNnewsCH
