กรณีคนร้ายก่อเหตุใช้ของแข็งทุบศีรษะนายพรหมจักร อายุ 33 ปี ชาวลาว แขวงบริคำไชย หลานชาย ภรรยาเจ้าของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม และใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง น.ส.วิชุดา อายุ 50 ปี พนักงานปั๊ม ชาว อ.เมืองนครพนม เสียชีวิตสยดสยอง 2 ศพ เหตุเกิดเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 29 ธ.ค.2566 ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เจ้าของปั๊มเปิดปม! ก่อนเด็กปั๊มถูกฆ่าโหด 2 ศพ คนขับรถกู้ชีพ อบต. โทรฯข่มขู่เรื่อง ‘บิลน้ำมันผี’

คืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2567 มีรายงานว่าชุดสืบสวนคลี่คลายได้คุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คนไปสอบปากคำในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง พร้อมทั้งตรวจเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างลายนิ้วมือ รวมทั้งร่องรอยคราบเขม่าดินปืนในมือ เพื่อเทียบเคียงกับผลชันสูตรศพ หลังพบว่าผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งแชตไลน์กับสาวผู้ตายก่อนเสียชีวิตไม่นาน ซึ่งอาจเชื่อมโยงถึงตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมโหดในครั้งนี้

ขณะที่ผลการชันสูตรศพจากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ พบว่า น.ส.วิชุดา เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ และถูกจ่อยิงที่แก้มซ้ายทะลุท้ายทอย ส่วนนายพรหมจักร ผลชันสูตรพบว่ามีร่องรอยการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ ก่อนถูกจ่อยิงในลักษณะเผาขนจนสมองกระจาย โดยในวันเกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนหรือหัวกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ขณะที่วันนี้ (1 ม.ค.) ตำรวจชุด EOD ของภูธรจังหวัดนครพนม นำเครื่องตรวจจับโลหะมาสแกนหาวัตถุพยานบริเวณรอบปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุนานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อหาปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนที่ใช้ก่อเหตุ

ขณะที่ รพ.นครพนม ญาตินายพรหมจัก เดินทางมาติดต่อขอรับศพนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโคกเกลี้ยง ต.นาทราย โดยมีพ่อและแม่ของนายพรหมจักร ผู้ตาย พร้อมญาติๆ เดินทางมาจากเมืองคำเกิด แขวงบริคำไชย หลังทราบข่าวนายพรหมจักร เสียชีวิต โดยทันทีที่เห็นศพลูกชาย ต่างพากันกอดญาติพี่น้องร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ ซึ่งแม่ผู้ตายได้จุดธูปไว้อาลัยและเดินไปเคาะโลงศพบอกลูกชายว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็ว เพื่อให้วิญญาณได้ไปสู่สุคติ โดยกล่าวว่า “หากตำรวจจับคนร้ายได้อยากจะถามว่าฆ่าเพราะอะไร” โดยจะมีพิธีฌาปนกิจศพนายพรหมจักร ในวันที่ 4 ม.ค.2567 ต่อไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)ภ.จว.นครพนม เดินทางมาที่วัดเพื่อตัดเล็บนายพรหมจักร ผู้ตาย เพื่อนำเศษชิ้นเนื้อไปตรวจดีเอ็นเอ และนำไปเทียบเคียงกับของผู้ต้องสงสัย 3 รายที่ชุดสืบสวนนำตัวมาสอบปากคำก่อนหน้านี้ หลังผลชันสูตรพบว่าก่อนที่นายพรหมจักรจะเสียชีวิตมีการต่อสู้กับคนร้าย ก่อนจะถูกยิงเสียชีวิต

โดยนอกจากประเด็นขัดแย้งเรื่องขัดผลประโยชน์บิลน้ำมันผีของรถกู้ชีพ อบต.แห่งหนึ่งแล้ว ตำรวจชุดสืบสวนยังนำตัว 2 ใน 3 ผู้ต้องสงสัยมาสอบเค้นแล้ว ยังพุ่งเป้าไปที่ประเด็นชู้สาว เนื่องจากก่อนหน้าที่ น.ส.วิชุดา จะเสียชีวิตพบโทรศัพท์ปริศนาเข้ามาที่เครื่องหลายครั้ง แต่ผู้ตายไม่ยอมรับ อีกทั้งพบภาพเบียร์ 5 ขวดและข้อความทางแชตไลน์ของนายพรหมจักร ที่ส่งเข้าในกลุ่มไลน์เด็กปั๊ม ก่อนเสียชีวิตทั้งคู่

นอกจากนี้ยังมีพยาน 2 คนระบุว่า ช่วง 21.00 น. หลังปั๊มน้ำมันปิด พบรถกระบะเก่าคันหนึ่งขับมาเติมน้ำมัน ผู้ที่มาเติมได้ใช้มือถือสแกนแทนเงินสด แต่นายพรหมจักร และ น.ส.วิชุดา ใช้แอปพลิเคชันเก็บเงินไม่เป็น พยาน 2 คนนี้จึงอาสาทำให้ ซึ่งพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวมีลักษณะตรงกับผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ที่มีการส่งแชตไลน์ในลักษณะชู้สาว และโทรศัพท์เข้ามือถือ น.ส.วิชุดา ก่อนถูกฆาตกรรมอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แนวทางการสืบสวนเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังพบว่าอดีตนักการเมืองคนนี้มักจะมีลูกน้องคอยติดตามไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลาอีกด้วย จึงเป็นที่มาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้มาสอบสวน เพื่อหาจุดเชื่อมโยงกับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญในคดีนี้