จากกรณีที่ นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานกรรมาธิการ การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเดินทางเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำเกินกว่า 120 วัน (นับตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.66) โดยจะเดินทางไปในวันที่ 12 ม.ค. เวลา 09.30 น. ณ อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ชั้น 14 รพ.ตำรวจ รวมถึงเตรียมทำหนังสือส่ง รพ.ตำรวจ เพื่อขออนุญาตไปดูการรักษาตัว การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังป่วยว่ามีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรบ้าง อีกทั้งหากทาง รพ. ไม่อนุญาต ก็ต้องตอบคำถามสังคมถึงสาเหตุของการไม่อนุญาต ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.66 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงประเด็นที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร จะเดินทางไปดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ราชทัณฑ์เปิดกว้างอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคณะเข้าไปดูงาน ซึ่งเป็นสิทธิของราชทัณฑ์ และตนเองให้นโยบายว่าต่อไปนี้ควรจะเปิดเรือนจำให้คนที่สงสัยเข้าไปดูได้ แต่ต้องมีหลักเกณฑ์ ส่วนกรณีที่ กมธ.จะขึ้นไปชั้น 14 ได้หรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ราชทัณฑ์มีระบบการเยี่ยมอยู่แล้ว เพราะเมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ขึ้นไปที่ชั้น 14 เนื่องจากมีคนร้องเรียน ดังนั้น สามารถทำได้ตามอำนาจขององค์กรอิสระ

ขณะที่ “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงภายในกระทรวงยุติธรรมว่า หากตรวจสอบไปยังระเบียบข้อกำหนดการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังป่วยของกรมราชทัณฑ์ จะพบว่า เพื่อให้สอดคล้องกับทางโรงพยาบาลและเป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ผู้เข้าเยี่ยมสามารถติดต่อได้ในวันทำการราชการ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งหากผู้เข้าเยี่ยมเป็นทนายความ จะต้องเป็นทนายความที่ได้รับการแต่งตั้งการเป็นทนายความจากผู้ต้องขังแล้วเท่านั้น และจะต้องมีการวัดอุณหภูมิร่างกายพร้อมส่งผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ก่อนเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง รวมถึงการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังสามารถทำได้ครั้งละไม่เกิน 30 นาที ที่สำคัญห้ามนำอุปกรณ์โทรศัพท์ หรือเครื่องมืออื่นใดที่สามารถทำการสื่อสาร ถ่ายรูป บันทึกเสียงเข้าภายในห้องเยี่ยมผู้ต้องขังโดยเด็ดขาด

กรณีบุคคลที่มีสิทธิเยี่ยมผู้ต้องขังป่วย ได้แก่ สมาชิกครอบครัวและญาติของผู้ต้องขัง ภรรยาตามกฎหมาย บุตรหรือหลาน หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด หรือบุคคลที่ผู้ต้องขังป่วยร้องขอ อย่างไรก็ตาม บุคคลที่จะเข้าเยี่ยมได้นั้นจะต้องเป็นบุคคลที่ผู้ต้องขังระบุรายชื่อไว้กับทางเรือนจำ ซึ่งมีจำนวนไม่เกิน 10 รายชื่อ ซึ่งก็หมายความว่าหากทาง กมธ.ตร. จะขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณในวันเวลาดังกล่าว ก็จะต้องปฏิบัติตามระเบียบ

รายงานข่าว ระบุอีกว่า หรือในอีกกรณีหนึ่ง หากทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะเห็นสมควรอย่างไรต่อการขอเข้าเยี่ยมขององค์คณะหรือหน่วยงานองค์กร ก็จะต้องมีการอนุญาตโดยเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษร สั่งการมายังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เนื่องจากการที่บุคคลภายนอกจะเข้าไปในสถานที่ควบคุมของผู้ต้องขังโดยพลการโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต จะเป็นการไม่ถูกต้องตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ และอาจทำให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นมีความผิดได้.