เมื่อวันที่ 12 ก.พ.67 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย ฝั่งขาเข้าประเทศ นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, นายพัฒนพงศ์ ตันติวัฒนกุลชัย หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1 สำนักงานศุลกากรหนองคาย, พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย, พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ร่วมกันแถลงการจับกุมนายคำภูมี สีจันโท อายุ 22 ปี และนายวิไลสัก ประถัมมะวง อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นชาวลาว พร้อมของกลาง เฮโรอีนบริสุทธิ์ 20 แท่ง ๆ ซุกซ่อนอยู่ใต้ฐานรูปปั้นเทพเจ้าจีนทำจากเซรามิก 3 องค์ รวมน้ำหนักเฮโรอีน 7.6 ก.ก. มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท

นายรัฐศาสตร์ เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ศุลกากรปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบรถยนต์เข้าออกประเทศตามปกติ พบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ JAC สีขาว ทะเลียน บจ 2973 กำแพงนคร มีนายคำภูมี และนายวิไลสัก ขับเข้ามาในประเทศทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกตรวจตามปกติพบกล่องกระดาษ 3 กล่อง ภายในบรรจุรูปปั้นเทพเจ้าจีนอยู่กล่องละ 1 ตัว เมื่อตรวจดูอย่างละเอียดพบว่าบริเวณฐานรูปปั้นมีร่องรอยการแกะประกอบ และรูปปั้นเซรามิกมีน้ำหนักมากผิดปกติ จึงได้แกะดูก็พบว่าภายในฐานรูปปั้นซุกซ่อนเฮโรอีนไว้

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่า ได้รับจ้างนำกล่องบรรจุรูปปั้นนำมาจากประเทศเพื่อนบ้านจะนำมาฝากส่งขนส่งเอกชนในพื้นที่จังหวัดหนองคายไปให้บุคคลคนหนึ่งที่กรุงเทพฯ โดยได้ค่าจ้างคนละ 500 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การและจะมีการขยายผลการจับกุมผู้เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเตรียมใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการลักลอบส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศที่สามต่อไป.