เมื่อวันที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม และพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม พร้อมด้วย น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง และนายมอส หลานของ นางสารภี อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเพิงพักแห่งหนึ่งซอยสะแกงาม 19 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ หลังจากวานนี้ (11 มี.ค.) นางสารภี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ธรรณธร รัศมี สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีกับ นายระเบียบ อายุ 58 ปี กับพวกรวม 3 คน ข้อหาร่วมกันบุกรุกฯ จนเกิดเป็นข้อพิพาท และถูกคู่กรณีฟ้องร้องครอบครองปรปักษ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อลงพื้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการพูดคุยกับ นางสารภี กับสามี เจ้าของที่ดินตัวจริงก่อนเข้าพื้นที่พิพาทซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน พบว่าประตูทางเข้ามีโซ่คล้องและมีกุญแจล็อกไว้ โดยพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทมีเนื้อที่ 3 งาน 46 ตารางวา จากพื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่ ซึ่งหากจะเข้าไปในพื้นที่นี้ต้องใช้ทางผ่านพื้นที่ของบุคคลอื่นเข้าไปด้านในลักษณะเหมือนไม่ใครอยู่ จากนั้นเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันจึงอนุญาตให้ตำรวจและนักข่าวใช้ทางหลังบ้านเข้าไปตรวจสอบอย่างทะลักทุเล ลักษณะด้านหลังมีหญ้าขึ้นสูง มีเศษขยะ ขวดแก้ว และเศษไม้ วางเกลื่อน และมีกลิ่นเหม็นคลุ้งจากกองขยะตลอดทาง พบนายระเบียง ซึ่งเป็นผู้ฟ้องครอบครองปรปักษ์อยู่ภายในบ้าน

นายระเบียง กล่าวกับตำรวจว่า ตนมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2547 แต่เมื่อถามรายละเอียดอื่นๆ นายระเบียบเลี่ยงไม่ตอบคำถามและเดินกลับเข้าไปในบ้าน

พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ลงพื้นที่มาดูสภาพแวดล้อมและรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ละเอียดและให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของที่ตัวจริง ถ้าพยานหลักฐานชัดเจนก็จะรีบดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และถ้าพบว่าผู้บุกรุกผิดจริงก็ต้องดำเนินคดี

ทนายกุ้ง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยดำเนินกับคู่กรณีในข้อหาบุกรุกมาแล้ว เพราะคู่กรณีนำขยะไปทิ้งและเผาขยะในพื้นที่ของนายมอส ซึ่งมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจน และได้ฟ้องขับไล่ให้ออกจากพื้นที่ไปแล้ว แต่กลับถูกคู่กรณีฟ้องแย้งครอบครองปรปักษ์กลับมา โดยมีเจ๊น้อย คอยอยู่เบื้องหลังนายระเบียบ

ส่วนนายมอส หลานเจ้าของที่ดิน กล่าวว่า วันนี้สบายใจขึ้นที่ได้เข้าไปดูพื้นที่พร้อมตำรวจ เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ของตัวเองได้เลย ซึ่งทางเข้าออกมีแค่ทางเดียว ถ้าจะเข้าไปในที่ดินของตัวเองก็ต้องผ่านพื้นที่ของเจ๊น้อย และที่ผ่านมาถ้าจะเข้าไปดูที่ของตัวเองก็ต้องปีนกำแพงฝั่งตรงข้ามเข้าไป ส่วนจุดประสงค์หลักคือต้องการล้อมรั้วในพื้นที่ของย่า แต่ปัญหาคือเข้าไปไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยถูกคู่กรณีข่มขู่ว่าจะปิดพื้นที่

ส่วนในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) ศาลจะมีการนัดสืบพยาน นั้น นายมอส ยืนยันว่า มีหลักฐานเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้คดี ส่วนเจ๊น้อย ที่นายระเบียบอ้างว่ามาสร้างบ้านอยู่บนพื้นที่ของเจ๊น้อย ตำรวจจะเชิญไปให้ข้อมูลภายในสัปดาห์นี้เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป