สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคนงาน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามการรายงานโดยสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง ซึ่งระบุด้วยว่า นายคิมต้องการหารือเกี่ยวกับ “นโยบายสำคัญด้านความมั่นคง” รวมถึง “มาตรการโต้กลับ” กับนโยบายของปรปักษ์ นั่นคือสหรัฐ


ขณะเดียวกัน นายคิมกล่าวถึง “การข่มขู่คุกคามทางทหาร” ของรัฐบาลวอชิงตัน “มาถึงเส้นอันตราย” เหตุจากการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ และการที่กองทัพสหรัฐยังคงเคลื่อนย้ายระบบอาวุธโจมตีทางยุทธศาสตร์มาติดตั้งในภูมิภาค และการใช้มาตรการกดดันฝ่ายเดียวต่อเกาหลีเหนือ ตลอดจนมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) เช่นกัน


นอกจากนี้ ท่านผู้นำยังกล่าวถึง “การเร่งตรวจสอบเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูกิจกรรมทั้งหมดที่เคยถูกระงับหรือยกเลิกไป” และการยกระดับศักยภาพทางทหาร “ในเชิงกายภาพ” ด้านกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อการส่งสัญญาณครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ

นายคิม จอง-อึน นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลาง พรรคคนงาน ที่กรุงเปียงยาง เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ รัฐบาลเปียงยางไม่ได้ทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกลข้ามทวีป ( ไอซีบีเอ็ม ) ตั้งแต่ปี 2560 หลังรัฐบาลวอชิงตันในยุคนั้น ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกทางการทูต โดยมีการประชุมแบบพบหน้าร่วมกันนายคิมถึง 2 ครั้ง คือที่สิงคโปร์ เมื่อปี 2561 และที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม เมื่อปี 2562


อย่างไรก็ตาม การหารือที่เวียดนามยุติกลางคัน เนื่องจากทั้งสองฝ่าย “ตกลงกันไม่ได้” และนับจากนั้นเป็นต้นมา เกาหลีเหนือกลับมาทดสอบขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ ด้วยเหตุผล “เพื่อป้องกันตัวเอง” และตำหนิรัฐบาลวอชิงตัน “สองมาตรฐาน” และ “มีเจตนาแอบแฝง” ต่อเกาหลีเหนือมาโดยตลอด.

เครดิตภาพ : REUTERS