สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ว่าคณะตุลาการ 5 คนของศาลฎีกาแห่งมาเลเซีย เริ่มพิจารณาคำร้องอุทธรณ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ต่อคดีทุจริตกองทุนพัฒนาแห่งชาติ “วัน มาเลเซีย เดเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด” หรือวันเอ็มดีบี ที่อัยการสูงสุดของมาเลเซียกล่าวหาอดีตผู้นำประเทศยักยอกเงินออกจากกองทุน ประมาณ 18,364.35 ล้านริงกิต (ราว 145,948.73 ล้านบาท) ระหว่างปี 2552-2557


สำหรับการสืบพยานของศาลสูงสุดจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 26 ส.ค. นี้ โดยนาจิบ วัย 69 ปี ยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตั้งแต่ศาลชั้นต้น เกี่ยวกับการละเมิดอำนาจ ฟอกเงิน และใช้อำนาจในทางมิชอบ ยักยอกเงิน 42 ล้านริงกิต (ราว 333.79 ล้านบาท) จากเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนย่อยของวันเอ็มดีบี เข้าสู่บัญชีส่วนตัว ระหว่างจัดการกองทุนเมื่อช่วงปี 2554 ถึง 2558


ทั้งนี้ คดีของเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นคดีแรกจาก “อีกหลายสิบคดี” ของวันเอ็มดีบี ซึ่งศาลมีคำพิพากษาแล้ว โดยศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อปี 2563 ให้นาจิบรับโทษจำคุก 12 ปี และชำระค่าเสียหาย 210 ล้านริงกิต (ราว 1,670.84 ล้านบาท) และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อปี 2564


หากศาลฎีกายังคงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ นั่นหมายความว่า นาจิบต้องเข้าสู่เรือนจำทันที หลังตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ใช้ชีวิตอยู่นอกเรือนจำภายใต้เงื่อนไขการประกันตัว ขณะที่มีการวิเคราะห์เช่นกัน ว่าคำตัดสินของศาลฎีกา ไม่ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร น่าจะมีผลต่อทิศทางการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ที่ตามกำหนดต้องเกิดขึ้นก่อนวันที่ 14 ก.ย. ปีหน้า เนื่องจากนาจิบ “ยังคงมีบทบาทอย่างมาก” ในฐานะแกนนำคนสำคัญของพรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ (อัมโน).

เครดิตภาพ : REUTERS