เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวเด็กจบใหม่ว่างงานนับแสนคน ว่า ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานได้มีตำแหน่งงานว่างและมาตรการต่างๆรองรับไว้แล้ว โดยลงพื้นที่พบปะภาคเอกชนสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการพัฒนาการให้บริการจัดหางานผ่านระบบออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พบว่า ภาพรวมการจ้างงานของนักศึกษาจบใหม่ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 ในภาคเอกชน รวม 575,230 คน มีการศึกษาต่อ 177,438 คน ต้องการทำงาน 397,792 คน นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษาจบใหม่ที่ต้องการมีงานทำปี 2563 และ 2564 จำนวน 795,584 ราย ซึ่งร้อยละ 85.85 มีงานทำและมีรายชื่ออยู่ในฐานทะเบียนประกันสังคมแล้ว มีเพียงร้อยละ 14.15 เท่านั้น ที่อยู่ในระบบการจ้างงานในภาครัฐ รวมทั้งประกอบอาชีพอิสระและว่างงาน สำหรับปี 2565 นี้ มีนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาใหม่ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และกำลังอยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะเรียนต่อหรือหางานทำอย่างไร ซึ่งตัวเลขนักศึกษาจบใหม่ที่ว่างงานดังกล่าวข้างต้นในช่วงเวลานี้ถือเป็นสถานการณ์ปกติ  

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีตำแหน่งงานว่างทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 272,977 อัตรา โดยประเภทอาชีพที่ต้องการจ้างงาน 5 อันดับแรก ได้แก่ แรงงานด้านบรรจุภัณฑ์ แรงงานด้านการประกอบ พนักงานขายของหน้าร้านและสาธิตสินค้า ตัวแทนบริการทางธุรกิจและนายหน้าการค้า และตัวแทนฝ่ายขายด้านเทคนิคและการค้า ซึ่งมีทั้งวุฒิ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี

นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่กระทรวงแรงงานต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อส่งเสริมให้มีโอกาสประกอบอาชีพอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตามความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ของตนเอง และนายจ้าง สถานประกอบการมีแรงงานที่มีทักษะเหมาะสมกับตำแหน่ง เพื่อขับเคลื่อนกิจการ ดังนั้น กกจ.จึงเร่งหาตำแหน่งงานเชิงรุกจากบริษัทที่มีศักยภาพ และต้องการจ้างแรงงานทั่วประเทศ เพื่อมาบรรจุไว้ใน แพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” นอกจากนี้ กกจ.ยังมีแผนจัด Roadshow ทั่วประเทศเพื่อเร่งหาตำแหน่งงานเชิงรุกจากบริษัทที่มีศักยภาพ มีความน่าเชื่อถือ และเป็นเป้าหมายของผู้สมัครงาน อาทิ กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) บริษัท คิงส์ แพ็ค อินดัสเตรียล จำกัด เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็ได้แจ้งตำแหน่งงานว่างที่จะลงในแพลตฟอร์มไทยมีงานทำถึง 2,000 อัตรา

“สำหรับผู้ที่ต้องการมีงานทำ และนายจ้าง/สถานประกอบการที่ต้องการรับสมัครงาน สามารถใช้บริการที่เว็บไซต์ “ไทยมีงานทำ.doe.go.th” หรือแอพพลิเคชั่น “ไทยมีงานทำ”  โดยคนหางานสามารถค้นหาข้อมูลตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด โดย Matching ตำแหน่งงานตามพื้นที่ และ ภูมิลำเนา รวมถึงจับคู่ตำแหน่งงานจากความรู้ ความสามารถ และทักษะที่มีอยู่ และสำหรับนายจ้าง สถานประกอบการ ที่ต้องการช่องทางรับสมัครงาน สามารถลงทะเบียนนายจ้าง เพื่อประกาศตำแหน่งงาน และคัดลอกรายชื่อผู้หางาน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากสงสัยสอบถามข้อมูล ที่สายด่วน 1506 กด 2 หรือสายด่วน 1694.