เมื่อเวลา 12.55 น. วันที่ 5 ก.ค.รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ลงมติในวาระที่ 3 เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. … ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 494 เสียง ไม่เห็นด้วย 40 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง และเห็นชอบกับข้อสังเกตของ กมธ. ก่อนที่จะส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้ ครม.ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ… ถือเป็นกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปประเทศฉบับแรกที่รัฐสภาเห็นชอบโดยใช้การประชุมต่อเนื่องยาวนานที่สุด ถึง 7 ครั้ง ขณะเดียวกันยังเป็นร่างกฎหมายที่ใช้เวลาพิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯ นานถึง 1 ปี 5 เดือน นับตั้งแต่ที่รัฐสภา ลงมติรับหลักการ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.64 นอกจากนี้ยังมี กมธ.ที่ทำหน้าที่พิจารณาในวาระสองต้องออกจากตำแหน่งไปถึง 2 คน ได้แก่ นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ และนายวิเชียร ชวลิต อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ทำหน้าที่ประธาน กมธ. ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงมติวาระที่ สอง ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย 344 ต่อ 181 งดออกเสียง 50 ไม่ออกเสียง 1 เสียง เห็นด้วยกับคณะกมธ. เพิ่มข้อความขึ้นใหม่ ในมาตรา 169/1 เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ระยะเวลาดำรงตำแหน่งใหม่ โดย ระบุว่า “ในวาระเริ่มแรกภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ การคัดเลือกหรือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ใช้บังคับอยู่ ในวันก่อนวันที่พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ ในกรณีที่ไม่อาจนำหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขมาใช้บังคับได้ตามวรรคหนึ่ง ก็จะดำเนินการประการใดให้เป็นไปตามที่ ก.ตร.กำหนด ซึ่งต้องไม่ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ.นี้”

ส่งผลให้ ส.ส.พรรคก้าวไกล หลายคนอาทิ นายรังสิมันต์ โรม และ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ คัดค้าน และตั้งข้อสังเกต อาจเกิดการโยกย้าย ข้ามหัวคนอื่นนำไปสู่การมี ตั๋วช้างและตั๋วตำรวจต่างๆมากมาย เป็นการวางทายาทอสูรขณะนี้ตำรวจทั้งประเทศกำลังจับตามองบุคคลเจ้าประจำ ที่ได้ตั๋วช้างช่วยมาตลอด เช่น ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และผู้ช่วยผบ.ตร.คนหนึ่งในขณะนี้ซึ่งเขาจะครบเกณฑ์หนึ่งปีที่สามารถเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นได้ซึ่งสองคนข้างต้นกล่าวถึง ขณะนี้อยู่ในลำดับอาวุโสท้ายแถว เพราะเขาใช้ตั๋วช้างยกเว้นหลักเกณฑ์มาหลายรอบ ถ้าบังคับใช้กฎหมายใหม่ในรอบนี้ 2 คนจะไม่ได้เลื่อนขึ้นแน่นอน แต่ถ้าเลื่อนออกไปอีก 180 วัน ตามที่คณะ กมธ.แก้ไข สองคนดังกล่าวจะสามารถเลื่อนขึ้นได้ ดังนั้น ถ้าที่ประชุมรัฐสภามีมติผ่านเรื่องนี้ ผู้ช่วยผบ.ตร.ตั๋วช้างคนดังกล่าวปีนี้จะได้เป็นรอง ผบ.ตร. และในปีหน้าสามารถขึ้นเป็น ผบ.ตร.ได้ ถามว่าเขาจะเป็นผู้นำองค์กรที่ตำรวจทั้งประเทศยอมรับได้อย่างไร

นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะรองประธาน กมธ. ชี้แจงว่า ตนไม่มีญาติเป็นตำรวจ ดังนั้น การที่บอกว่าเอื้อประโยชน์ให้กลุ่นคนได้ตั๋วช้าง ตั๋วม้า ตั๋วแมว หรือตั๋วอะไร ตนไม่ได้สนใจอะไร เพราะมีทั้งคนได้และคนเสียพอกัน แต่สภาต้องออกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม มีตำรวจมาข้อร้องว่าเกิดปัญหาตำรวจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ย้ายกลับลำบากถ้ากฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ทันที ดังนั้น สภาจะใจจืดใจดำไม่ให้หรือ เพียงแค่ 180 วัน.