เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร สมาชิกวุฒิสภา ประธานอนุฯการจัดหางานและพัฒนาฝีมือแรงงาน วุฒิสภา โพสต์ข้อความระบุ เล่าสู่กันฟัง…! “เหนื่อยกาย แต่ใจสุข” วันนี้ (8ธ.ค.65 ) เริ่มตั้งแต่เวลา 03.30 น. ได้เดินทางจากบ้านพักไปจ.อุดรธานี เพื่อประชุมหารือแก้ปัญหากรณี การถูกหลอกลวงโดยอ้างว่าสามารถพาไปทำงานที่ญี่ปุ่นได้ มีเหยื่อหลงเชื่อยอมกู้หนี้ยืมสิน นำเงินไปให้ผู้กระทำผิดตกรายละ 20,000-70,000 บาท (ล่าสุดเพิ่มเป็นจำนวน 69 ราย)โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ย.65ได้มีผู้เสียหายรวม 27 ราย มาร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานกมธ.แรงงาน วุฒิสภา ต่อมา วันที่ 14 พ.ย.65 ประธาน กมธฯได้มอบหมายให้อนุกมธ จัดหางานฯซึ่งมีผมเป็นประธานตรวจสอบดำเนินการ ผมจึงได้พยายามประสานผู้เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการจนสามารถออกหมายจับเมื่อ 18 พ.ย.65 และจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 1 ราย เมื่อ 30 พ.ย.65 อยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี

แต่เพื่อให้การดำเนินคดีและการช่วยเหลือเหยื่อเป็นไปด้วยความรวดเร็วเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ในวันนี้ 8 ธ.ค. 65 อนุ กมธฯจึงได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อนให้บังเกิดผลดังกล่าว ทั้งนี้การไปครั้งนี้นอกจากไปขอบคุณและให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้องแล้ว ยังไปให้คำแนะนำทั้งเรื่องการตั้งข้อกล่าวหาให้ครอบคลุมทุกข้อหา การขยายผลดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทุกราย การเยียวยา และที่สำคัญคือการป้องกันมิให้มีเหตุทำนองนี้เกิดขึ้นอีก (กันไว้ดีกว่าแก้) โดยเน้นการปชส.เชิงรุกเพื่อให้เหยื่อได้รับทราบอย่างทั่วถึง ทั้งการใช้สื่อ สาธารณะ สื่อonline สื่อon ground หรือสื่อพื้นบ้าน โดยเฉพาะเสียงตามสายซึ่งมีทุกหมู่บ้านจะช่วยสร้างการรับรู้ได้ดีที่สุด เพราะที่ผ่านมาจากการสอบถามเหยื่อส่วนใหญ่อ้างว่ายังเข้าไม่ถึงสื่อพื้นบ้านน่าจะสร้างการรับรู้ได้ดีที่สุด ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด

ทั้งนี้จากการหารือสามฝ่าย ฝ่ายตำรวจนำโดย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.อุดรธานี และผกก ท้องที่เกิดเหตุ กระทรวงแรงงาน นำโดย นายสันติ นันตสุวรรณ รอง อธิบดีกรมการจัดฯ และมีตัวแทนผู้เสียหาย 6 คน ได้ประโยชน์อย่างยิ่ง ผลการหารือโดยสรุปคือทุกฝ่ายมีความพอใจและเข้าใจในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะผู้เสียหายมีความพอใจและซึ้งใจที่กมธฯให้ความสำคัญและเอาใจใส่กับปัญหาของพวกเขาเป็นอย่างมาก ถือเป็นต้นแบบในการบูรณาการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

อนึ่ง จากการทำงานเชิงรุกตั้งแต่รับเรื่องร้องเรียนมาจนถึงขณะนี้ ทราบจากผู้เสียหายว่า ผู้กระทำผิดได้พยายามติดต่อเพื่อขอเจรจา บางรายมีการโอนเงินคืนให้เต็มจำนวนที่ถูกหลอกลวงไป ทำให้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนไปได้ส่วนหนึ่ง แต่การดำเนินคดีผู้เสียหายยืนยันว่าจะขอให้จนท.ทำจนถึงที่สุด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

อย่างไรก็ดี คงต้องพยามติดตามผลโดยต่อเนื่องเพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับการลงโทษ และเหยื่อได้รับการชดใช้ค่าเสียหายมากที่สุด