เมื่อวันที่ 2 มี.ค. จากกรณี นายอำนาจ กลิ่นสาลี อายุ 70 ปี หรือ “ลุงแบน” พลเมืองดีที่เคยช่วยออกเรือตามหาร่าง “แตงโม” ร้องสื่อมวลชน หลังใช้เงินบริจาคไปว่าจ้างต่อเรือลำใหม่เพื่อนำมาอาศัยอยู่ แต่เวลาผ่านไปนานเกือบ 1 ปี เรือกลับไม่เสร็จ อีกฝ่ายอ้างขอเวลาไปเรื่อย ๆ หวั่นถูกโกงเอาเงินไปแล้ว 2.3 แสนบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ได้เดินทางไปที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อพบกับลุงแบน เพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว ลุงแบน กล่าวว่า ตนอยากได้เรือเร็ว ๆ จะได้เอามานอน ทุกวันนี้ ตนก็นอนที่ท่าเรือทุกคืน ยุงก็เยอะ เวลาฝนตกหนักฝนก็สาดใส่ ที่สั่งทำเรือก็หวังว่าจะเอาเรือมาเป็นเหมือนบ้าน เอามานอน

ต่อมา ทนายโป้ง และลุงแบน ได้เดินทางไปที่ซอยท่าอิฐ 15 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นอู่ต่อเรือที่ลุงแบนสั่งต่อเรือ พบเรือที่ลุงแบนสั่งเอาไว้ สภาพเรือเสร็จประมาณ 90% ซึ่ง นายแก้ว บุบผา อายุ 58 ปี เป็นผู้รับจ้างทำเรือ กล่าวว่า ตนได้รับทำเรือของลุงแบน ในช่วงเดือน ก.ค. 65 ซึ่งในขณะนี้เรือต่อก็ใกล้จะเสร็จแล้ว ที่ล่าช้าก็เพราะฝนตกน้ำท่วม เวลาฝนตกทำงานไม่ได้ เชื่อมไม่ได้ และอีกอย่างตนก็ไม่ค่อยสบาย ตอนนี้ก็เหลือแต่เก็บรายละเอียด ต้องขอเวลาอีกประมาณ 20 วันก็เสร็จ แล้วส่งเรือให้กับลุงแบน ส่วนเงินที่เหลือลุงแบนต้องจ่ายประมาณ 25,000 บาท ที่สั่งของเพิ่ม จ่ายวันที่ส่งมอบเรือ

‘ลุงแบน’ คาใจจ้างต่อเรือใหม่เกือบปียังไม่เสร็จ ทนายชี้ส่อเข้าข่าย ‘ผิดสัญญาจ้าง-ฉ้อโกง’

ด้าน ทนายโป้ง กล่าวว่า หลังจากที่ได้ลงพื้นที่มาดูที่อู่ต่อเรือแล้ว ก็มาพบช่างที่ต่อเรือให้กับลุงแบน ทั้งสองเข้าใจกันดีแล้ว ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดความล่าช้า คือ 1.น้ำท่วมหลายเดือน 2.ช่างมีปัญหาสุขภาพ เส้นเลือดสมองตีบ ต้องไปรักษา มีพยานรู้เห็น ผู้นำชุมชนเป็นพยานได้ เพราะฉะนั้นระยะเวลาที่ล่วงเลยไปถึง 4-5 เดือน ก็เข้าใจว่าเป็นปัญหาอุปสรรคจริง ๆ แต่ช่างก็รับปากแล้วว่า ภายใน 20 วัน จะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ส่งมอบเรือให้คุณลุงแบนที่ท่าน้ำพิบูลสงคราม ก็ถือว่าเรื่องนี้จบลงด้วยดี

“ตนเชื่อว่าทุกเรื่องถ้าได้มีการพูดคุยกัน ได้มาลงหน้างาน ได้มาเห็นของจริงก็จะได้ยุติจบลง ตนว่าประเด็นดราม่าฟังคนนู้นทีคนนี้ที แล้วเกิดความไม่เข้าใจ แล้วเกิดการแคลงใจกัน ตนก็ฝากทุกเรื่องถ้าเป็นไปได้คู่กรณีต้องมานั่งคุยกัน มาดูสถานที่เองหรืออะไรเอง อย่างลุงแบน กับ ช่างเสก ตนพามาที่อู่ต่อเรือจึงได้พบความจริง และทุกคนเข้าใจว่ามีอู่อยู่จริง ไม่ใช่ประเด็นดราม่าที่พูดกันในโลกโซเชียล” ทนายโป้ง กล่าว