เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 23 มี.ค. ที่เวทีปราศรัยที่ลานกิจกรรมตลาดน้ำอโยธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยาทั้ง 5 เขต โดยมีประชาชนรอรับฟังคำปราศรัยเต็มพื้นที่

น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า วันนี้พรรค พท. มาเต็มทีม ตนท้องครบ 8 เดือน แต่ไม่พลาดมาอยุธยาแน่นอน จ.พระนครศรีอยุธยา อุดมสมบูรณ์ แต่พี่น้องมีหนี้มีสินมากมาย วันนี้ภาคการเกษตรไม่เพียงพอกับความเป็นอยู่ วันนี้พรรค พท. จะนำเทคโนโลยีมาช่วยทำการเกษตร เหนื่อยน้อยลงแต่ได้เงินมากขึ้น เราตั้งใจจริง 8 ปีที่ผ่านมา ลำบากมามาก เรามีนโยบายดีๆ มาก ที่บอกว่าจะทำให้ได้ก่อนปี 70 นั้น ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นไปได้แน่นอน และที่บอกกันว่ าอยุธยาไม่สิ้นคนดี วันนี้ไม่เอาแล้วหน้ากากคนดี จึงขอให้เลือพรรค พท. ทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์

ส่วนนายเศรษฐา ปราศรัยว่า พอกันที 8 ปียาวนานมาก หวังว่า 4 ปีข้างหน้า จะไม่เห็นหน้ากันอีก ตนภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน จ.พระนครศรีอยุธยา มีโบราณสถานเยอะ การท่องเที่ยวน่าจะดี แต่ทำไมการท่องเที่ยวตกต่ำ ประชาชนรายได้หาย เป็นเพราะรัฐบาลไม่สามารถจัดการปัญหาของประเทศได้ เราไม่อยากเจอเรื่องแย่ๆ เช่นนี้ อยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใด พรรค พท. ก็ไม่สิ้นนโยบายดีๆ ฉันนั้น เราใช้นโยบายนำมาโดยตลอด การเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. 66 พรรค พท. มีนโยบายดีๆ มาเสนอ ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลภายใน 6 เดือน จะสำรวจครัวเรือนไหนมีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท เราจะเติมให้ ใครอายุ 16 ปีขึ้นไป เราจะสร้างกระเป๋าตังค์ดิจิทัล ให้ใช้ในพื้นที่ 4 กม. เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และจะทำให้รายได้สุทธิประชาชนเพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 4 ปี

ทางด้าน นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า วันนี้เราไม่คิดใหญ่ไม่ได้ เพราะหลังจากที่พวกเราถูกยึดอำนาจไป 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติย่ำแย่ ถ้าปล่อยไว้ไม่คิดใหญ่ ประชาชนไม่มีโอกาสฟื้น โดยคิดใหญ่เรื่องแรก เราต้องเอาต้นเหตุความย่ำแย่ทั้งหลายออกจากประเทศไปก่อน เพราะมีคำว่า 3 ป. มายึดอำนาจและสืบทอดอำนาจ จึงขอแรงเอา 3 ป. กลับบ้านไป วันที่ 14 พ.ค. ขอให้ไปเลือกตั้งกาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคยกจังหวัดทั้ง 5 เขต ซึ่งเมื่อวาน (22 มี.ค.) มีพรรคการเมือง 2 พรรค ไปกินข้าวด้วยกัน เจตนาถ่ายรูปโชว์ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จับมือกันตั้งรัฐบาล ทั้งที่ประชาชนยังไม่มอบอำนาจให้ โดยทั้ง 2 พรรคนี้ จะรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตั้งรัฐบาลให้ได้ 203 เสียง ถ้าประชาชนไม่เอา ก็ขอให้เลือกเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร ปราศรัยอยู่นั้น น.ส.ทานตะวัน ตุลานนท์ หรือ “ตะวัน” และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ “แบม” นักกิจกรรมเคลื่อนไหวต่อต้านมาตรา 112 ทำกิจกรรมหน้าเวทีด้วยการชูป้ายสำรวจความคิดเห็นว่า ประชาชนต้องการให้พรรค พท. เสนอนโยบายยกเลิก 112 หรือไม่ และสอบถามว่า คุณคิดว่าปากท้องกับเสรีภาพไปด้วยกันได้หรือไม่ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย ติดสติกเกอร์โหวตว่าต้องการหรือไม่ต้องการให้ยกเลิก โดย น.ส.แพทองธาร ระบุว่า “ขอบคุณน้องๆ มากที่มา แต่ตอนนี้พี่ขออนุญาตทำหน้าที่ปราศรัยก่อน เดี๋ยวเราจะคุยกัน หลังจากที่พรรค พท. ปราศรัยจบ” หลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้ปราศรัยต่อ.