ทำเอา “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาแอคชั่น ตามเกมในฐานะหัวหน้าพรรค ว่า จะกำชับสส.ให้เข้าร่วมประชุมสภา แต่สส.หลายคนไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว ทุกคนที่เป็น สส.ที่ถูกเลือกจากพี่น้องประชาชนมาให้ทำหน้าที่แทนจะต้องทราบอยู่แล้วว่าการประชุมสภามีความสำคัญ
ขณะที่ “นายกฯเศรษฐา” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ไม่วอรี่ บอกชัดเสถียรภาพรัฐบาลแน่นปึก 314 เสียงพรรคร่วมรวมรัฐบาล เหนียวแน่นดี ไม่จำเป็นต้องเติมเสียงเสริมทัพ ตอนนี้มีปัญหาต้องแก้เยอะ ไม่มีเวลามาเล่นการเมือง เรื่องของสส.พรรคเพื่อไทย คิดว่าทุกคนรู้หน้าที่ตัวเองดี ไม่ก้าวก่ายเพราะผมทำหน้าที่อยู่ฝ่ายบริหาร
ส่วน“วิปรัฐบาล” ออกมายอมรับว่า “ก้าวไกล” ติดเขี้ยวเล็บมากขึ้นไม่ใช่เด็กน้อยเหมือนก่อน ได้เรียนรู้การใช้วิชาการเมือง ไม่ได้มีแค่หลักวิชาการอย่างเดียว เป็นการเรียนรู้วิชาการเมืองมาจาการแกนนำเพื่อไทยที่ใช้ในสมัยที่แล้ว พร้อมรีบนัดหารือวิปรัฐบาล19 ธ.ค.ทันทีเพื่อรับเกม“สภาล่ม” ถือเป็นบทเรียนที่รัฐบาลจะต้องนำไปแก้ไข ไม่ให้เกิดเหตุสภาล่มซ้ำอีก
ขณะที่พรรคการเมืองเก่าแก่อย่าง พรรคประชาธิปัตย์ เกิดอาการฝีแตก เลือดไหลไม่หยุด เหตุสมาชิกพรรคทยอยลาออกตาม “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”ภายหลังที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.66 มีมติเห็นชอบให้ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน ขึ้นกุมบังเหียน นั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ โดยมี “เดชอิศม์ ขาวทอง” สส.สงขลา เป็นเลขาธิการพรรค
หลังจากนี้ต้องจับตาดูว่า อนาคตพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การถือธงนำโดย“เสี่ยต่อ” จะเดินไปอย่างไร หรือรอจังหวะที่เหมาะสมเข้าร่วมเป็นพรรคอะไหล่ของ “รัฐบาลเศรษฐา”
เมื่อมาดูอาการขุนพลของ “เสี่ยต่อ”อย่าง “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีธรรมราชพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ออกตัว ชี้ว่า ระเบียนของกรมราชทัณฑ์ที่ออกมาล่าสุด ไม่ได้เป็นการเอื้อให้กับ นช.ทักษิณ ชินวัตร เพราะ กฎระเบียบออกเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2563 จากนั้นมีการแก้ไขระเบียบลดโทษ 1 ใน 3 เมื่อปี 64 แต่ระเบียบประกาศใช้ในปี 66 ดังนั้นหากมองว่าการทำเรื่องนี้เพื่อเอื้อนักโทษคนใดคนหนึ่งเมื่อปี 63 ก็ไม่จริง เพราะไม่มีใครทราบว่า “ทักษิณ” จะกลับมามอบตัวในปี 66
จับอาการจากคำพูด เป็นการส่งสัญญาณบวกที่ใคร ๆ ต่างต้องจับตาดู! ปธ. กมธ.ตร.แม้จะมาพลิกเกม ออกอาการขึงขัง จะพากมธ.ตำรวจบุกชั้น 14 รพ.ตำรวจ เพื่อดูว่า นายทักษิณ ป่วยจริง รักษาอยู่จริงหรือไม่ แต่หลายคนก็พากันเชื่อในสัญญาณแรกกันไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ยังมีประเด็น ทักษิณ ชินวัตร ที่จะเป็นอีกหนึ่งโจทย์ร้อน ที่จะทำให้การเมืองไทยร้อนแรง ซึ่งพรรคก้าวไกลเตรียมลับดาบ วางเกมแบบจัดหนัก เปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แน่นอน ”นายกฯเศรษฐา” เตรียมคัดขุนพลมือดีรอทำการบ้านไว้แต่เนินๆได้เลย
โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติ(พรบ.)นิรโทษกรรมแก่บุคคล ซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมากจากเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมืองพ.ศ…ที่พรรคก้าวไกลได้ยื่นต่อ ประธานสภา “วันมูหะมัดนอร์ มะทา”เตรียมเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภา เป็นของร้อนพรรคเพื่อไทย ที่ต้องตั้งรับกันเป็นมือระวิง เตรียมชิงเกมโยนเรื่องเสนอในวิปรัฐบาล ชงเป็นญัตติด่วน เพื่อตั้งคณะกรรมการศึกษา เรื่องการนิรโทษกรรม โดยผนึกกำลังพรรคร่วมปิดประตูการนิรโทษนักโทษคดี 112 เพราะกลัวกงล้อประวัติศาสตร์ ที่ยังตามหลอน จึงต้องรีบออกมาแตะเบรก
แม้ “รังสิมันต์ โรม”สส.บัญชีรายชื่อ จะออกมาบอกว่าคนที่ได้ประโยชน์ คือ คนที่อยู่ชั้น 14 นช.ทักษิณ ชินวัตร แต่เพื่อไทยประกาศชัดว่า จะไม่ใช่นิรโทษกรรมกับ “ทักษิณ” เพราะมีกระบวนการยุติธรรมรองรับอยู่ ตอนนี้ก็เห็นแล้วว่า มีการปูทางไว้ชัดเตรียมให้ “ทักษิณ” กลับบ้านอย่างเท่ห์ๆ ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์
จับตาต้นปี 67 หากความเท่ห์ “ทักษิณ” ปรากฏออกมาจริง จะเป็นชนวนเชื้อไฟ หมิ่นเหม่ ต่อการเกิดความแตกแยก เป็นการประจานความเหลื่อมล้ำ ของสังคมไทย จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่ต้องออกมา ชี้แจงทำความเข้าใจให้ชัดเจน ถ้าไม่อยากเจอกับสงครามครั้งใหม่
ขณะที่ฝากพรรคก้าวไกล ก็โดนคดีกับแบบสับๆ เจอนิติสงครามตามหลอกหลอนเช่นกัน โดยเฉพาะคดี112 จากวัคซีนพระราชทาน ที่ ไอซ์-รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพมหานคร ประเดิมโดนตัดสินจำคุก 6 ปี ทำให้คนของก้าวไกลต้องเสียวสันหลังกันทั้งพรรค เพราะยังมีสส.อีก 2 คน ได้แก่ โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบสามกีบ ,ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.ปทุมธานี ที่โดยคดี112
นอกจากนี้ ยังมีบรรดาผู้นำจิตวิญญาณ อย่าง “พ่อของฟ้า” เสี่ยเอก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ก็ยังมีคดี วัคซีนพระราชทาน ที่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนสืบพยานในชั้นศาลอาญา รวมถึง “ปิยบุตร แสงกนกกุล” อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ก็มีคดีที่ถูกแจ้งความเรื่อง 112 ที่อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ
อีกทั้งยังต้องลุ้นคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญอีก จากคำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย กรณีพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ ผลพวงจากกรณี สส.ของพรรคเข้าชื่อกันยื่นเสนอแก้ไขมาตรา 112 และนำนโยบายแก้มาตรา 112 ไปหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา หากปรากฏพฤติการณ์ฯก็จะนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกลได้
ดังนั้นจะเห็นว่าเรื่อง 112 ยังเป็นชนักปักหลังพรรคก้าวไกล ที่ยังต้องนอนสะดุง หายใจไม่ทั่วท้อง และน่าจะเป็นสาเหตุให้พรรคก้าวไกลต้องลุยถั่วเดินหน้าพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯถึงแม้จะรู้ว่าไปไม่ถึงฝั่งก็ตาม
ถือเป็นวิบากกรรมของพรรคก้าวไกลที่ต้องเปิดศึก เผื่อฝ่าด่านหินในสภา และ ขอชูธงสู้ศึกนิติสงครามอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน
มองดูการต่อสู้ ตามเกมการเมืองในปี 67 จะร้อนเหมือนที่“อาจารย์โสรัจจะ นวลอยู่ หมอดูเจ้าของฉายา “นอสตราดามุสเมืองไทย” ได้พูดไว้หรือไม่ที่ “พรรคการเมือง” จะเกิดความผันผวน ยุ่งยาก ความไม่เรียบร้อย ซึ่งออกจะรุนแรงเป็นที่คาดไม่ถึง ใครที่มีชนักติดหลังอยู่ก็รับกรรมไป เกิดการแตกแยกในหมู่พรรคการเมือง ฝีแตก และแตกหลายช่วง กลัวว่า จะมีเหตุอะไรที่อาจจะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง อาจจะเป็นการปรับครม. หรืออาจะมีการชุมนุม หรือเลือกตั้งแบบทดแทนส.ส. บางคน
ไม่ว่าใครจะว่าทำนายทายทักอย่างไร “นายกฯเศรษฐา” ยังปักหมุดลุยงานแบบไม่กลัวเหนื่อย เร่งสวมบท เซลล์แมน บินไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ดึงนักธุรกิจมาลงทุนในประเทศแบบต่อเนื่อง เชื่อเศรษฐกิจในประเทศต้องดีขึ้น คนไทยต้องมีรายได้ที่ดี
แต่ต้องควันออกหู ปรี๊ดแตกกับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ที่ขึ้นให้แรงงานไม่สมศักดิ์ศรีความเป็นคน วอนให้เห็นใจลูกจ้างบ้าง ขึ้นมา 2-3 บาท ซื้อไข่1 ฟองยังไม่ได้เลย ทำเอา“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.แรงงาน ต้องดึงเรื่องกลับจากครม.ขอไปคิดสูตรค่าแรงขั้นต่ำใหม่ น่าจะเข้าครม.ทันปีใหม่
เรื่องนี้นายกฯพลิกเกมเล่นมาอยู่ข้างฝ่ายแรงงาน ไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการไตภาคี ขอให้ทบทวนใหม่ ในที่สุดถึงจะไม่ได้ 400 บาท ตามที่เคยสัญญาไว้ตอนหาเสียง เพราะมีเรื่องของหลักเกณฑ์เงื่อนไข มาเป็นปัจจัยทำให้ 400 บาทต้องสะดุด
แถมยังต้องมาทำสงครามกับ “สงครามฝุ่น” ที่ตอนนี้พุ่งไปอยู่ในระดับวิกฤติ โดยเฉพาะพื้นที่กทม.หลังจากที่ “นายกฯเศรษฐา” ขึ้นเวทีหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ได้จัดเสวนาภายใต้ชื่องาน “Dailynews Talk 2023” ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน แล้ว‘นายกฯเศรษฐา’ ควง รมว.อุตสาหกรรม พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ‘ตรวจดูฝุ่น PM 2.5 แยกราชประสงค์ ทันทีพรอมสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาดันเป็นวาระแห่งชาติ
เป็นวาระร้อนการเมือง ที่รัฐบาลต้องตั้งเกมรับ ยังไม่รวมแนวรบด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง ที่ทุกคนกำลังรอรัฐบาลเร่งถักทอผลงาน เสกเงินเข้าประเทศ ใส่กระเป๋าคนไทยแบบด่วนจี๋!.
