สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) เผยแพร่รายงาน ว่าแม้ปรากฏการณ์เอลนีโญครั้งปัจจุบัน ซึ่งก่อตัวเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว อ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม ความแปรปรวนและความรุนแรงของสภาพอากาศที่เกิดขึ้น ถือว่าหนักหน่วงที่สุดเป็นอันดับ 5 สำหรับปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ เนื่องจากส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวน้ำทะเล ในภูมิภาคตะวันออก และภาคกลางของแปซิฟิก สูงกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2534-2563 ประมาณ 2 องศาเซลเซียส


ดังนั้น ดับเบิลยูเอ็มโอคาดการณ์ว่า มีโอกาสประมาณ 60% อิทธิพลของเอลนีโญจะยังคงส่งผลให้พื้นที่เกือบทุกแห่งบนโลก ยังคงมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ระหว่างเดือน มี.ค. จนถึงเดือน พ.ค. นี้ และโอกาส 80% ซึ่งสภาพอากาศทรงตัวหรือเป็นกลาง จะเกิดขึ้นระหว่างเดือน เม.ย. จนถึงเดือน มิ.ย. นี้


หลังจากนั้น มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ปรากฏการณ์ลานีญา ซึ่งตรงข้ามกับเอลนีโญ จะก่อตัว แต่ทิศทางของรูปแบบสภาพอากาศในเวลานั้นยังไม่มีความชัดเจน โดยโลกอยู่ภายใต้อิทธิพลของลานีโญครั้งล่าสุด ระหว่างปี 2563 จนถึงช่วงต้นปี 2566


อนึ่ง ปรากฏการณ์เอลนีโญจะเกิดขึ้นทุก 2 หรือ 7 ปี โดยช่วงเวลาหนึ่งจะยาวนานประมาณ 9-12 เดือน ขณะที่โลกเผชิญกับปรากฏการณ์ดังกล่าวครั้งก่อนหน้า ระหว่างปี 2558-2559 ส่วนเอลนีโญรอบปัจจุบัน มีความรุนแรงที่สุด ระหว่างเดือน พ.ย.-ม.ค. ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP