เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 18 ก.พ. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณา “ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี” วันที่ 2 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ได้อภิปรายถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ขออภิปรายบุคคลคนหนึ่งซึ่งตอนอยู่พรรคเดิมอภิปรายคนนี้ไม่ได้ เป็นแกนแห่งความชั่วร้าย สร้างเครือข่ายและส่งพี่น้องหรือคนรู้จักไปตามส่วนต่างๆ ในช่วงคสช. ความเสียหายที่เกิดจากปีศาจคนนี้ เป็นกงล้อปีศาจที่ชั่วร้าย โดยสภาล่มซ้ำซาก เป็นเพราะพล.อ.ประวิตรต้องการหักกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นเพราะพี่ต้องการเล่นงานน้อง เพราะพี่อยากเป็นนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงช่วงนี้ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นขอให้นายศรัณย์วุฒิ ถอนคำพูดคำว่า พี่อยากเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นการใส่ร้าย นายศรัณย์วุฒิ กล่าว่า “ฆ่าทิ้ง ผมก็ไม่ถอน เพราะเป็นความจริง”

นายศรัณย์วุฒิ อภิปรายต่อว่า ล่าสุดให้ลูกน้องแยกพรรคออกไป ประชาชนสับสน ระหว่างประชาธิปไตย คุณธรรมกับเผด็จการอำมหิต โดยการแยกพรรคเล็กออกไป เตรียมผสมพันธุ์พรรคใหญ่อีกขั้ว หลังเลือกตั้งชนะมาจะให้พี่ใหญ่เป็นนายกฯ ที่เจ็บปวด บางคนเป็นฝ่ายเผด็จการ กำลังแปลงร่างเป็นเทพบุตร เลือกตั้งต่อไปจะผสมพันธุ์พรรคฝ่ายตรงข้าม รับไม่ได้ สงสารประเทศไทย เกิดความเหลื่อมล้ำเอื้อเจ้าสัวสุดๆ แต่คนไทยยังจนจนตาย ตนจะขอต่อสู้อย่างถึงที่สุด วันนี้คนไทยบอกว่า นายกฯประยุทธ์ ที่ไม่เก่ง แต่ตนรู้ว่าไม่ใช่ แต่ท่านเป็นสิงห์ซ่อนเล็บ ประเทศไทยกำลังจะได้นายกฯคนใหม่ มูมมามที่สุด กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเอื้อเจ้าสัว นอกจากไม่เก่ง ใครถามอะไรก็บอกว่า ไม่รู้ ไม่รู้

“คนไทยบอกว่า นายกฯไม่เก่ง ก็ไม่อยากได้ นายกฯ ไม่รู้ ไม่รู้ กูก็ไม่เอา กูไม่เอา กูไม่เอาโว้ย” นายศรัณย์วุฒิ พูดพร้อมตะโกนอย่างสุดเสียงในห้องประชุมสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายของนายศรัณย์วุฒิ พยายามพาดพิงไปถึงพล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคาย และพูดถึงบุคคลภายนอกอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอดีตนายตำรวจใหญ่ที่ใกล้ชิดอย่างมากกับพล.อ.ประวิตร จนถูกส.ส.ฝ่ายรัฐบาลประท้วงเป็นระยะๆ โดยขอให้หลีกเลี่ยงพาดพิงไปถึงบุคคลภายนอก โดยมี ส.ส.บางคนถึงกับขู่ว่า ครั้งที่แล้วอาจจะย้ายพรรค แต่ครั้งนี้อาจจะติดคุกได้