เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลชนกลุ่มเยาวชนปลดแอก และแนวร่วมจากเครือข่ายต่างๆกว่า 10 เครือข่าย เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปทำเนีรัฐบาล โดยเมื่อมาถึงแยกผ่านฟ้าลีลาศ ก็พบเจ้าหน้าตั้งแนว พร้อมกับใช้รั้วลดหนามปิดเส้นทาง ทางแกนนำจึงขึ้นรถใช้เครื่องขยายเสียง ขอเจรจาเคลื่อนขบวนผ่านถนนราชดำเนินมุ่งหน้าไปทำเนียบรัฐบาล แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธ พร้อมระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงาน กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ฟังเจ้าหน้าที่ การพยายามรื้อแผงเหล็กและรั้วลวดหนามออก ทางตำรวจพยายามประชาสัมพันธ์ให้งดการกระทำดังกล่าว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่หยุด จึงเริ่มปฏิบัติการตามขั้นตอนด้วยการใช้รถจีโน่น้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนขยับไปใช้น้ำผสมฉีดสี เพื่อเป็นคัดแยกและระบุตัวตนรวมทั้งแก๊สน้ำตา และกระสุนยางตามลำดับ จนกลุ่มผู้ชุมนุมต้องล่าถอยไป กระทั่งสถานการณ์เริ่มสงบลง แกนนำได้ประกาศให้ทางมวลชนจะเปลี่ยนเส้นทางไปใช้ถนนนครสวรรค์มุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาลแทน