เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.ธมลวรรณ สุริวงษ์ อายุ 22 ปี ลูกสาวของนายธีรยุทธ สุริวงษ์ อายุ 44 ปี ที่ถูกตำรวจ ปส. วิสามัญ บริเวณปากซอยสุวินทวงศ์ 40 พื้นที่ สน.ลำผักชี เสียชีวิตภายในคลอง พบของกลางไอซ์ 10 กิโลกรัม และอาวุธปืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยนำศพนายธีรยุทธ ใส่โลงศพ เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม โดยมี น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่องแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

สิ้นลาย! ปส.วิสามัญ หนุ่มค้าไอซ์เหิมยิงสู้โดนสวนเจาะอกโดดคลองดับ

สืบเนื่องจากนายธีรยุทธ (ผู้ต้องหา) ได้ชักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ขณะขอตรวจค้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงป้องกันตัว จากนั้นนายธีรยุทธได้ขับรถแหกด่านออกมายังบริเวณซอยฉลองกรุง 30/1 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. แต่เมื่อจวนตัวได้ลงจากรถพร้อมยาเสพติดในถุง กระโดดลงคลอง สุดท้ายพบนายธีรยุทธเสียชีวิต เป็นเหตุให้บุตรสาวตัดสินใจแห่โลงศพพ่อมาร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ปส. ว่า กระทำโดยเกินกว่าเหตุหรือไม่ และมีคราบเขม่าดินปืนที่มือของผู้ตายหรือไม่ เพื่อพิสูจน์ว่า ผู้ตายได้ชักปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่

นายธนากร ทองประดิษฐ์ อายุ 38 ปี เพื่อนรุ่นน้องในชุมชนของผู้ตาย กล่าวว่า เบื้องต้นขอขอบคุณกระทรวงยุติธรรมที่รับเรื่องไว้ สงสารลูกสาวนายธีรยุทธ เพราะจากที่ตนได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการยิงกระสุนสกัดโดยเล็งไปที่ล้อรถ แต่กลับยิงเข้าที่คนขับ ซึ่งเสมือนล็อกเป้าไว้แล้ว และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ของนายธีรยุทธ ที่เจ้าหน้าที่พบ ตนเห็นภาพแล้วเล็งเห็นว่าเป็นปืนที่ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะแมกกาซีนมีการใส่กลับด้าน ตนและครอบครัวนายธีรยุทธ แค่อยากรู้ว่านายธีรยุทธได้ต่อสู้ตำรวจจริงหรือไม่ เพราะถ้าไม่ได้ต่อสู้ ก็แปลว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ

นายธนากร กล่าวอีกว่า อีกทั้งพยานแวดล้อมบริเวณตลาดนัดแถวนั้น ก็เห็นว่า มีพ่อค้าในตลาดที่ถูกลูกหลงจากเหตุการณ์นี้ด้วย ทั้งนี้ ตนและครอบครัวได้ธีรยุทธ ยอมรับในกรณีที่ผู้เสียชีวิตทำผิดเรื่องคดียาเสพติดและยอมรับว่าผู้เสียชีวิตเคยมีคดีเรื่องยาเสพติดและเรื่องอาวุธปืน ซึ่งถ้าคนของเราต่อสู้เจ้าหน้าที่ ปส.จริง เราน้อมรับ แต่ถ้าเขาไม่ได้สู้ เรายอมรับไม่ได้ และในวันเกิดเหตุ พยานแวดล้อมได้แจ้งกับตนว่า ตอนที่นายธีรยุทธตัดสินใจวิ่งหนีลงคลองภายหลังหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ นายธีรยุทธยังไม่เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวขึ้นมาบนบก แล้วจับใส่กุญแจมือ และเจ้าหน้าที่ยังได้กล่าวว่า ไม่ต้องปั๊มหัวใจอีกด้วย แม้ว่านายธีรยุทธจะมีร่องรอยการถูกยิงเข้าที่กลางอกและต้นแขนขวาก็ตาม

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เข้ามาร้องขอความเป็นธรรม สาเหตุมาจากเล็งเห็นว่าเจ้าหน้าที่ชุด บช.ปส ได้เข้าจับกุมผู้เสียชีวิต และมีการวิสามัญเกิดขึ้น ทางครอบครัวจึงสงสัยว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่อย่างไร ซึ่งทางญาติได้ให้รายละเอียดว่า เจ้าหน้าที่มีการยิงเข้ารถยนต์ และภายหลังผู้เสียชีวิตวิ่งลงมาจากรถ กระโดดลงคลอง เพื่อหลบหนี ตำรวจก็ได้ไปอุ้มขึ้นมา ซึ่งขณะนั้นยังไม่เสียชีวิต แต่มาเสียชีวิตภายหลังจากที่ถูกอุ้มตัวขึ้นมาไว้บนบก

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ กล่าวอีกว่า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องการให้กระทรวงยุติธรรม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเรื่องคราบเขม่าดินปืนบนมือผู้เสียชีวิต เพื่อพิสูจน์ว่าได้มีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ นอกจากนี้ ตนได้สอบถามเรื่องการจัดการศพแล้วทราบว่า ปัจจุบันศพนายธีรยุทธ อยู่ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 30-45 วัน จึงจะทราบผลการชันสูตร ทางกระทรวงยุติธรรมจึงบรรเทาด้วยการให้นำศพไปเก็บที่ห้องเก็บศพ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต แทน ระหว่างที่รอผลการชันสูตร เพราะถ้าเก็บที่วัด ทราบว่าจะเสียค่าใช้จ่ายจำนวนหลายร้อยบาทต่อวัน ทั้งนี้ ทางญาติไม่ได้ติดใจเรื่องยาเสพติด เพราะเข้าใจถึงความผิดดังกล่าวของผู้ตาย แค่เพียงอยากพิสูจน์ว่า ที่มือของผู้ตายมีเขม่าดินปืนหรือไม่ เพื่อจะได้นำไปสู่การตั้งคำถาม ตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่มีการเข้าจับกุมผู้ต้องหา ในสัดส่วนที่เกินกว่าเหตุหรือไม่.